ด้านความคิดสร้างสรรค์



กลุ่มที่ 6
ความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย


ความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย
 องค์ประกอบของความคิดสร้างสรรค์นี้ได้รับอิทธิพลมาจากทฤษฎีโครงสร้างทางสติปัญญาของกิลฟอร์ด ซึ่งเชื่อว่าความคิดสร้างสรรค์เป็นความสามารถทางสมองที่คิดได้อย่างซับซ้อน กว้างไกล หลายทิศทาง หรือที่เรียกว่า คิดอเนกนัย ซึ่งประกอบด้วย ความคิดริเริ่ม ความคิดคล่องแคล่ว ความคิดยืดหยุ่น ความคิดละเอียดลออ


กิลฟอร์ด  ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับองค์ประกอบของความคิดสร้างสรรค์ไว้ดังนี้
         1. ความคิดริเริ่ม (Originality) หมายถึง ความคิดแปลกใหม่ไม่ซ้ำกันกับความคิดของคนอื่น และแตกต่างจากความคิดธรรมดา ความคิดริเริ่มอาจเกิดจากการคิดจากเดิมที่มีอยู่แล้วให้แปลกแตกต่างจากที่เคยเห็น หรือสามารถพลิกแพลงให้กลายเป็นสิ่งที่ไม่เคยคาดคิด ความคิดริเริ่มอาจเป็นการนำเอาความคิดเก่ามาปรุงแต่งผสมผสานจนเกิดเป็นของใหม่ ความคิดริเริ่มมีหลายระดับซึ่งอาจเป็นความคิดครั้งแรกที่เกิดขึ้นโดยไม่มีใครสอนแม้ความคิดนั้นจะมีผู้อื่นคิดไว้ก่อนแล้วก็ตาม
          2. ความคิดคล่องแคล่ว (Fluency) หมายถึง ปริมาณความคิดที่ไม่ซ้ำกันในเรื่องเดียวกัน โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้
  • ความคล่องแคล่วทางด้านถ้อยคำ (Word Fluency) เป็นความสามารถในการใช้ถ้อยคำอย่างคล่องแคล่ว
  • ความคิดคล่องแคล่วทางด้านการโยงสัมพันธ์ (Associational Fluency) เป็นความสามารถที่จะคิดหาถ้อยคำที่เหมือนกันได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ภายในเวลาที่กำหนด
  • ความคล่องแคล่วทางด้านการแสดงออก (Expression Fluency) เป็นความสามารถในการใช้วลีหรือประโยค กล่าวคือ สามารถที่จะนำคำมาเรียงกันอย่างรวดเร็วเพื่อให้ได้ประโยคที่ต้องการ
  • ความคล่องแคล่วในการคิด (Ideational Fluency) เป็นความสามารถที่จะคิดค้นสิ่งที่ต้องการภายในเวลาที่กำหนด เช่น ใช้คิดหาประโยชน์ของก้อนอิฐให้ได้มากที่สุดภายในเวลาที่กำหนดซึ่งอาจเป็น 5 นาที หรือ 10 นที

          3. ความคิดยืดหยุ่น (Flexibility) หมายถึง ประเภทหรือแบบของการคิดแบ่งออกเป็น
  • ความคิดยืดหยุ่นที่เกิดขึ้นทันที (Spontaneous Flexibility) เป็นความสามารถที่จะพยายามคิดได้หลายทางอย่างอิสระ ตัวอย่างของคนที่มีความคิดยืดหยุ่นในด้านนี้จะคิดได้ว่าประโยชน์ของหนังสือพิมพ์มีอะไรบ้าง ความคิดของผู้ที่ยืดหยุ่นสามารถจัดกลุ่มได้หลายทิศทางหรือหลายด้าน เช่น เพื่อรู้ข่าวสาร เพื่อโฆษณาสินค้า เพื่อธุรกิจ ฯลฯ ในขณะที่คนที่ไม่มีความคิดสร้างสรรค์จะคิดได้เพียงทิศทางเดียว คือ เพื่อรู้ข่าวสาร เท่านั้น
  •  ความคิดยืดหยุ่นทางด้านการดัดแปลง (Adaptive Flexibility) หมายถึง ความสามารถในการดัดแปลงความรู้ หรือประสบการณให้เกิดประโยชน์หลายๆ ด้าน ซึ่งมีประโยชน์ต่อการแก้ปัญหา ผู้ที่มีความยืดหยุ่นจะคิดดัดแปลงได้ไม่ซ้ำกัน

       4. ความคิดละเอียดละออ (Elaboration) หมายถึง ความคิดในรายละเอียดเป็นขั้นตอน สามารถอธิบายให้เห็นภาพชัดเจน หรือเป็นแผนงานที่สมบูรณ์ขึ้น ความคิดละเอียดละออจัดเป็นรายละเอียดที่นำมาตกแต่ง ขยายความคิดครั้งแรกให้สมบูรณ์ขึ้น


แอนเดอร์สัน (Anderson. 1957) กล่าวว่า ความแตกต่างของบุคคลอยู่ที่ความคิด สร้างสรรค์และ  ประสบการณ์เป็นสำคัญ พร้อมทั้งได้แบ่งกระบวนการด้านความคิดสร้างสรรค์ ออกเป็น 6 ขั้น คือ 
ขั้นที่ สนใจและรู้ถึงความต้องการของจิตใจและสมอง
ขั้นที่ 2 รวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์และสิ่งที่น่าสนใจ
ขั้นที่ 3 ไตร่ตรองถึงการวางแผน โครงร่างและรูปแบบของงาน
ขั้นที่ 4 จากผลข้อ 1 - 3 ทำให้เกิดจินตนาการ
ขั้นที่ 5 สร้างจินตนาการออกมาให้เป็นความจริง และแสดงผลให้เห็นได้ชัด
ขั้นที่ 6 รวบรวมความคิด และแสดงออกมาในรูปของผลงาน

ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ได้กล่าวถึงความคิดสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัยไว้ดังนี้
          ความคิดสร้างสรรค์เกิดจากการประสานความสามารถตามธรรมชาติของมนุษย์ในสองส่วน ประกอบที่สำคัญ คือ “ความสามารถในการคิด” และ “ความสามารถในการสร้างสรรค์” ซึ่ง อาจจะมีอยู่ในบุคคลเดียวกัน หรือบางคนอาจมีเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งก็เป็นได้ความสามารถในการคิด เป็นผลผลิตจากกระบวนการทำงานของสมองของมนุษย์ที่คิดอยู่เกือบตลอดเวลา ลักษณะการ คิดแบ่งเป็นการคิดแบบไม่มีจุดมุ่งหมาย (undirected cognition) เป็นการคิดแบบอิสระ ปะติด ปะต่อกันโดยปราศจากการจัดระเบียบ เปลี่ยนไปตามความสนใจหรือเหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามาขณะนั้น และไม่มีการตั้งวัตถุประสงค์ ส่วนการคิดแบบมีจุดมุ่งหมาย (directed cognition) เป็นการคิดแบบ มีทิศทาง มีการจัดระบบระเบียบและวัตถุประสงค์เฉพาะ โดยอาศัยกระบวนการทำงานของสมอง อย่างเป็นขั้นตอน ตั้งแต่การรับรู้ การตีความ ความจำ สมมติฐาน จนกระถึงการสรุปผล สำหรับ ความสามารถในการสร้างสรรค์ หมายถึง การสร้างการกระทำให้เกิดขึ้น เป็นได้ทั้งกระบวนการ วิธีการรวมไปถึงลักษณะทางผลิตผลหรือชิ้นงาน

           แนวทางการจัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์
การจัดกิจกรรมควรคำนึงถึงตัวเด็กเป็นสำคัญเพราะเด็กแต่ละคนมีความสนใจที่แตกต่างกันดังนั้น คุณครูควรมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย ตรงกับความสนใจและความสามารถของเด็ก จะจัดเป็นแบบกลุ่มใหญ่หรือเป็นรายบุคคลก็ได้ค่ะและควรมีการจัดกิจกรรมทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียนเพื่อเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศและให้เด็กเกิดความผ่อนคลายได้คิดและใช้จินตนาการได้อย่างเต็มที่ส่วนระยะเวลาในการจัดกิจกรรมแนะนำให้จัดตามความเหมาะสมกับวัยและสามารถยืดหยุ่นได้ตามความสนใจของเด็ก 

       กิจกรรมรูปเรขาคณิตมหาสนุก



ช่วงอายุ 4-5 ปี


จุดประสงค์
1.เพื่อส่งเสริมการพัฒนาทักษะในด้านการคิดสร้างสรรค์
2.เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้รู้จักใช้จินตนาการจับคู่เปรียบเทียบและเชื่อมโยงสิ่งต่างๆที่มีลักษณะเหมือนกับรูปเรขาคณิต  
สาระที่ควรเรียนรู้
          1.การใช้อุปกรณ์อย่างถูกวิธี
          2.รูปเรขาคณิต
อุปกรณ์
          1.ตัวอย่างรูปเรขาคณิต
          2.บัตรภาพรูปเรขาคณิต
          3. บัตรภาพสิ่งต่างๆที่มีลักษณะเป็นรูปเรขาคณิต
ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรม
          ขั้นนำ
1.ครูนำรูปภาพเรขาคณิตมาให้เด็กๆดู อธิบายและยกตัวอย่างสิ่งต่างๆที่มีลักษณะคล้ายกับรูปเรขา คณิตแบบต่างๆ
2.ครูและเด็กร่วมกันสร้างข้อตกลงก่อนทำกิจกรรม   
2.1 การใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง รักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น                        
2.2 การเก็บของเข้าที่
ขั้นสอน
3. ครูอธิบายวิธีการทำกิจกรรมดังนี้
3.1 ให้เด็กๆหยิบบัตรภาพรูปเรขาคณิตทีละภาพ
3.2 จากนั้นให้เด็กจับคู่กับบัตรภาพสิ่งของต่างๆที่มีมีลักษณะเหมือนกับรูปเรขาคณิตนั้น
ขั้นสรุป
4.ครูและเด็กร่วมกันสรุปเกี่ยวกับกิจกรรมรูปเรขาคณิตมหาสนุก
                   4.1 รูปเรขาคณิตมีรูปอะไรบ้าง
                   4.2 ยกตัวอย่างลักษณะสิ่งต่างๆรอบตัวที่มีลักษณะเหมือนรูปเรขาคณิต
ประโยชน์ที่ได้รับจากการทำกิจกรรม
1.เด็กได้รู้จักใช้จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์
2.เด็กได้พัฒนาทักษะในด้านการคิดสร้างสรรค์
          3.เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับรูปเรขาคณิต
การประเมินผล
          1.เด็กบอกรูปเรขาคณิตต่างๆได้
            2.เด็กสามารถบอกและจับคู่เปรียบเทียบสิ่งต่างๆรอบตัวที่มีลักษณะเหมือนกับรูปเรขาคณิตได้

 ช่วงอายุ 5-6 ปี



จุดประสงค์
1.เพื่อส่งเสริมการพัฒนาทักษะในด้านการคิดสร้างสรรค์
2.เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้รู้จักใช้จินตนาการในการเปรียบเทียบและเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ
ที่มีลักษณะเหมือนกับรูปเรขาคณิต
สาระที่ควรเรียนรู้
          1.การใช้อุปกรณ์อย่างถูกวิธี
          2.รูปเรขาคณิต
อุปกรณ์
          1.ตัวอย่างรูปเรขาคณิต
          2.แผ่นภาพรูปเรขาคณิตที่ติดกับพื้น
          3.บัตรภาพรูปเรขาคณิต
ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรม
          ขั้นนำ
1.ครูนำรูปภาพเรขาคณิตมาให้เด็กๆดู อธิบายและยกตัวอย่างสิ่งต่างๆที่มีลักษณะคล้าย
กับรูปเรขาคณิตแบบต่างๆ
2.ครูและเด็กร่วมกันสร้างข้อตกลงก่อนทำกิจกรรม   
2.1 การใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง รักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น                        
2.2 การเก็บของเข้าที

ขั้นสอน
3. ครูอธิบายวิธีการทำกิจกรรมดังนี้
3.1 ให้เด็กๆกระโดดไปที่ตามจุดต่างๆที่มีรูปภาพเรขาคณิตติดอยู่
3.2 จากนั้นให้เด็กบอกว่ารูปเรขาคณิตนั้นคือรูปอะไร และให้เปรียบเทียบและยกตัวอย่างสิ่งต่างๆ
ที่มีลักษณะเหมือนกับรูปเรขาคณิตนั้น
ขั้นสรุป
4.ครูและเด็กร่วมกันสรุปเกี่ยวกับกิจกรรมรูปเรขาคณิตมหาสนุก
          4.1 รูปเรขาคณิตมีรูปอะไรบ้าง
          4.2 ยกตัวอย่างลักษณะสิ่งต่างๆรอบตัวที่มีลักษณะเหมือนรูปเรขาคณิต
ประโยชน์ที่ได้รับจากการทำกิจกรรม
1.เด็กได้รู้จักใช้จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์
2.เด็กได้พัฒนาทักษะในด้านการคิดสร้างสรรค์
3.เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับรูปเรขาคณิต
การประเมินผล
          1.เด็กสามารถบอกและอธิบายลักษณะรูปเรขาคณิตแบบต่างๆได้
           2.เด็กสามารถบอกและเปรียบเทียบสิ่งต่างๆรอบตัวที่มีลักษณะเหมือนกับรูปเรขาคณิตได้
ปัญหาและอุปสรรค์ในการจัดกิจกรรม
1.ใช้เวลาในการทำกิจกรรมมากไป เด็กอาจเริ่มสนใจในการทำกิจกรรมน้อยลง
สิ่งที่ควรปรับปรุงในการจัดกิจกรรม
1.ให้เด็กได้มีอิสระในการทำกิจกรรมด้วยตนเองเพิ่มขึ้น
2.ให้เด็กได้สร้างสรรค์ผลงานจากสิ่งที่เรียนรู้
3.เพิ่มบัตรภาพสิ่งต่างๆที่มีลักษณะเหมือนรูปเรขาคณิตให้มีความหลากหลาย
สรุปผลการประเมินพัฒนาการจากการจัดกิจกรรม
1.เด็กได้รู้จักใช้จินตนาการและพัฒนาทักษะในด้านการคิดสร้างสรรค์
2.เด็กได้ทักษะการคิดแบบริเริ่ม คล่องตัว ยืดหยุ่น

3.เด็กสามารถในการเชื่อมโยง ยกตัวและเปรียบเทียบสิ่งต่างๆรอบตัวที่มีลักษณะเหมือนกับรูปเรขาคณิตได้

กิจกรรม เอ๊ะ อะไรเอ่ย?


ช่วงอายุ 45 ปี

จุดประสงค์
    1.เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้รู้จักใช้จินตนาการและความสามารถของตนเอง
    2.ส่งเสริมการใช้ภาษาในการพูด เล่าเรื่องราวที่จินตนาการ
    3.เพื่อส่งเสริมการแสดงออกทางการคิดและจินตนาการผ่านการพูด
    4.เพื่อส่งเสริมการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5
อุปกรณ์
    1.  ผัก ผลไม้ เช่น ส้ม มะนาว ชมพู แตงกวา
    2. ผ้าปิดตา    
    3. กล่องปริศนา  
ขั้นตอนการดำเนินการ
     ขั้นนำ
    1.ครูนำกล่องปริศนามาให้เด็กๆดู และสนทนาร่วมกันถึงกล่องปริศนานี่ว่าคืออะไร
    2.ครูสนทนากับเด็กๆและร่วมกันสร้างข้อตกลงก่อนทำกิจกรรม
            - การใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง ความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น
- การใช้อุปกรณ์และเก็บอุปกรณ์เมื่อทำกิจกรรมสำเร็จ
     ขั้นสอน
     3.เด็กๆช่วยกันเตรียมอุปกรณ์การทำกิจกรรม
     4.ครูให้เด็กๆแต่ละคนต่อเป็นแถวและให้คนที่อยู่ข้างหน้าปิดตา 
และเดินไปล้วงของในกล่องปริศนาแล้วชิม ดม ว่าสิ่งนั้นคืออะไร
      5. หลังจากที่ล้วงกล่องแล้วทายว่าของสิ่งนั้นคืออะไร และให้เด็กๆเล่ามาสิ่งนั้นเป็นอย่างไร
      6. หลังจากเสร็จกิจกรรมช่วยกันเก็บอุปกรณ์
     ขั้นสรุป
     7.ครูและเด็กๆร่วมกันสนทนาถึงประโยชน์ของกิจกรรมเอ๊ะ อะไรเอ่ย
     8.ครูสนทนาร่วมกันกับเด็กๆที่ได้ทำกิจกรรมเอ๊ะ อะไรเอ่ย? ได้เล่าเรื่องต่างๆที่ได้ทำกิจกรรม
ประโยชน์
          1.ได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และเสริมสร้างจินตนาการ
          2.เด็กๆสามารถเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งที่ตนเองคิดและจินตนาการไว้
          3.ได้ผ่อนคลายอารมณ์และเกิดความสนุกสนานในขณะทำกิจกรรม

ช่วงอายุ 56ปี

จุดประสงค์
     1. เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดสร้างสรรค์และการแก้ไขปัญหาอย่างอิสระ
     2.เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้รู้จักใช้จินตนาการและความสามารถของตนเอง
     3.ส่งเสริมการใช้ภาษาในการพูด เล่าเรื่องราวที่จินตนาการ
     4.เพื่อส่งเสริมการแสดงออกทางการคิดและจินตนาการผ่านการพูดและงานศิลปะ
     5.เพื่อส่งเสริมการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5
อุปกรณ์
     1.  ผัก ผลไม้ เช่น ส้ม มะนาว ชมพู แตงกวา
     2.  กระดาษ   
     3. สีผสมอาหาร 
     4. ผ้าปิดตา    
     5. พู่กันขนาดแตกต่างกัน 
     6. กล่องปริศนา  
ขั้นตอนการดำเนินการ
     ขั้นนำ
     1.ครูนำกล่องปริศนามาให้เด็กดู และสนทนาร่วมกันถึงกล่องปริศนานี่ว่าคืออะไร
     2.ครูสนทนากับเด็กและร่วมกันสร้างข้อตกลงก่อนทำกิจกรรม
                   - การใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง ความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น
       - การใช้อุปกรณ์และเก็บอุปกรณ์เมื่อทำกิจกรรมสำเร็จ
     ขั้นสอน
     3.เด็กๆช่วยกันเตรียมอุปกรณ์การทำกิจกรรม
     4.ครูให้เด็กแต่ละคนต่อเป็นแถวและให้คนที่อยู่ข้างหน้าปิดตา 
และเดินไปล้วงของในกล่องปริศนาแล้วชิม ดม ว่าสิ่งนั้นคืออะไร
     5. หลังจากที่ล้วงกล่องแล้วทายว่าของสิ่งนั้นคืออะไร และให้เด็กๆวาดภาพที่เด็กๆ
สัมผัสนั้นลงในกระดาษ โดยจะมีกระดาษและมีสีวางอยู่ข้างๆ
     6. หลังจากเสร็จกิจกรรมช่วยกันเก็บอุปกรณ์
     ขั้นสรุป
     7.เด็กร่วมกันนำเสนอผลงานที่ได้สร้างสรรค์ขึ้นจากวาดภาพและชื่นชมผลงานของแต่ละคน
     8.ครูสนทนาร่วมกันกับเด็กๆที่ได้ทำกิจกรรมเอ๊ะ อะไรเอ่ย? สร้างสรรค์ผลงาน
จากการวาดภาพที่ได้สัมผัส
     9.ครูและเด็กร่วมกันสนทนาถึงประโยชน์ของกิจกรรมเอ๊ะ อะไรเอ่ย?
ประโยชน์
     1.ได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และเสริมสร้างจินตนาการ
     2.เด็กสามารถเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผลงานที่ตนเองทำตามความคิดและจินตนาการได้
     3.ได้ผ่อนคลายอารมณ์และเกิดความสนุกสนานในขณะทำกิจกรรม
     4. เด็กสามารถปฏิบัติตามกฎที่ครูตั้งไว้ได้
การประเมินผล
     1.เด็กได้ฝึกทักษะการคิด และการแก้ไขปัญหาอย่างอิสระ
     2.เด็กทักษะการยอมรับความคิดเห็น และปฏิบัติตามข้อตกลง
     3.ประเมินจากการสังเกตการตอบคำถาม การเล่าเรื่อง และเขียนบันทึกระหว่างเด็กทำกิจกรรม
     4.เด็กได้ทักษะความคิดสร้างสรรค์ ได้ใช้จินตนาการแสดงผ่านผลงานได้อย่างสร้างสรรค์
     5.เด็กสามารถแสดงความรู้สึกนึกคิดการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5ออกมาในวิถีที่สร้างสรรค์




กิจกรรม หนูน้อยนักเล่า



ช่วงอายุ4 5 ปี
 จุดประสงค์
1.เพื่อส่งเสริมการพัฒนาทักษะในด้านการคิดสร้างสรรค์
2.เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้รู้จักใช้จินตนาการ  ในการเล่าเรื่องจากภาพ
3.เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแบบริเริ่ม คล่องตัว ยืดหยุ่น และละเอียดลออ
สาระที่ควรเรียนรู้
1.การใช้อุปกรณ์อย่างถูกวิธี
2.การแบ่งปัน

สื่อ/อุปกรณ์
                · ลูกเต๋าแสนสนุก

ขั้นตอนการดำเนินการ
ขั้นนำ
              ครูและเด็กกล่าวทักทายสนทนาร่วมกันเกี่ยวกับกิจกรรมแสนลูกเต๋ามาให้เด็กๆดูและให้เด็กๆ
              นั่งเป็นวงกลม และร่วมกันสร้างข้อตกลงก่อนทำกิจกรรมดังนี้
         -การรู้จักแบ่งปัน            
         -การเก็บของเข้าที
ขั้นสอน
      1.ครูนำกล่องลูกเต๋ามาให้เด็กๆดู  และรวมกันสนทนาถึงรูปภาพในลูกเต๋า  โดยใช้คำถาม
          - เด็ก ๆ ลองคิดดูซิว่า ในลูกเต๋านี้มีรูปอะไรอยู่
     2.โดยครูให้เด็กๆ ตกลงกันว่าให้จะเป็นคนเริ่มก่อน และให้เด็กๆหนึ่งคน 
      คนทอยลูกเต๋า 2 ลูกพร้อมกัน 
     3.แล้วให้เด็กๆเล่าเรื่องราวจากรูปภาพที่ได้ ให้เพื่อนๆฟังให้ครบทุกคน
ขั้นสรุป
    ครูและเด็กรวมกันสนทนาถึงกิจกรรมที่เด็กๆเล่าเรื่อง

ประโยชน์ที่ได้รับจากการทำกิจกรรม
 1.เด็กได้รู้จักใช้จินตนาการและพัฒนาทักษะในด้านการคิดสร้างสรรค์
2.เด็กได้ทักษะการคิดแบบริเริ่ม คล่องตัว ยืดหยุ่น
3.เด็กสามารถในการเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ แม้จะเข้าใจในความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผล

การประเมินผล
          ครูสังเกตและบันทึกเรื่องราวของเด็กระหว่างเด็กทำกิจกรรม

ช่วงอายุ 5-6ปี

จุดประสงค์
1.เพื่อส่งเสริมการพัฒนาทักษะในด้านการคิดสร้างสรรค์
2.เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้รู้จักใช้จินตนาการในการเล่าเรื่องจากภาพ
3.เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแบบริเริ่ม  คล่องตัว ยืดหยุ่น
4.เพื่อส่งเสริมการเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผล

สาระที่ควรเรียนรู้
1.การใช้อุปกรณ์อย่างถูกวิธี
2.การแบ่งปัน

สื่อ/อุปกรณ์
                · ลูกเต๋าแสนสนุก

ขั้นตอนการดำเนินการ
     ขั้นนำ
     ครูและเด็กกล่าวทักทายสนทนาร่วมกันเกี่ยวกับกิจกรรมแสนลูกเต๋ามาให้เด็กๆดูและให้เด็กๆนั่งเป็นวงกลม และร่วมกันสร้างข้อตกลงก่อนทำกิจกรรมดังนี้
      -การรู้จักแบ่งปัน             
      -การใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง ความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น
      -การเก็บของเข้าที
      ขั้นสอน
      1. ครูนำกล่องลูกเต๋ามาให้เด็กๆดู  และรวมกันสนทนาถึงรูปภาพในลูกเต๋า  โดยใช้คำถาม
      - เด็ก ๆ ลองคิดดูซิว่า ในลูกเต๋านี้มีรูปอะไรอยู่
      -เด็กๆจะเล่าเรื่องอะไรคะ
      2. โดยครูให้เด็กๆ ตกลงกันว่าให้จะเป็นคนเริ่มก่อน และให้เด็กๆหนึ่งคน 
     คนทอยลูกเต๋า 4 ลูก พร้อมกัน 
      3. แล้วให้เด็กๆเล่าเรื่องราวจากรูปภาพที่ได้ ให้เพื่อนๆฟังให้ครบทุกคน
     
    ขั้นสรุป
       ครูและเด็กรวมกันสนทนาถึงกิจกรรมที่เด็กๆเล่าเรื่อง

ประโยชน์ที่ได้รับจากการทำกิจกรรม
1.เด็กได้รู้จักใช้จินตนาการและพัฒนาทักษะในด้านการคิดสร้างสรรค์
2.เด็กได้ทักษะการคิดแบบริเริ่ม คล่องตัว ยืดหยุ่น
3.เด็กสามารถในการเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ แม้จะเข้าใจในความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผล

การประเมินผล
          ครูสังเกตและบันทึกเรื่องราวของเด็กระหว่างเด็กทำกิจกรรม

ปัญหาและอุปสรรค์ในการจัดกิจกรรม
       1.รูปภาพในลูกเต๋าไม่น่าสนใจ
       2.ความคงทนของลูกเต๋า
   
สิ่งที่ควรปรับปรุงในการจัดกิจกรรม
            1.ทำให้รูปภาพให้น่าสนใจ
            2. เพิ่มความคงทนของลูกเต๋า

สรุปผลการประเมินพัฒนาการจากการจัดกิจกรรม
   1.เด็กได้รู้จักใช้จินตนาการและพัฒนาทักษะในด้านการคิดสร้างสรรค์
  2.เด็กได้ทักษะการคิดแบบริเริ่ม คล่องตัว ยืดหยุ่น
  3.เด็กสามารถในการเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ แม้จะเข้าใจในความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผล


กิจกรรม สวนสัตว์มหาสนุก

ช่วงอายุ 4-5 ปี

วัตถุประสงค์
    1. เพื่อส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และจินตนาการ
    2. เพื่อส่งเสริมการแสดงออก และมีความมั่นใจในตนเอง
สื่อวัสดุ/อุปกรณ์
    1. ฉาก
    2. ภาพสัตว์นานาชนิด
ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรม
     ขั้นนำ
     1. ครูนำภาพสัตว์มาให้เด็กดู สนทนาร่วมกันถึงลักษณะของสัตว์แต่ละชนิด และสวนสัตว์ที่เด็กๆเคยพบเจอ
    ขั้นสอน
     1. ครูอธิบายและชี้แจงถึงขั้นตอนในการทำกิจกรรม
     2. เด็กๆ ลงมือทำกิจกรรมร่วมกันอย่างอิสระ และครูคอยสังเกตการทำกิจกรรมของเด็ก
     3. เมื่อเด็กๆทำกิจกรรมเสร็จแล้ว ช่วยกันเก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้าที่ให้เรียบร้อย
    ขั้นสรุป
     1. ครูและเด็กร่วมกันสนทนาถึงประโยชน์ของกิจกรรมที่ได้ร่วมกันทำ
ประโยชน์จากการจัดกิจกรรม
         1. เพื่อส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และจินตนาการ
         2. เพื่อส่งเสริมการแสดงออก และมีความมั่นใจในตนเอง
การวัดและประเมินผล
     1. เด็กได้ฝึกทักษะทางความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และจินตนาการ
     2. เด็กได้ฝึกทักษะการแสดงออก และมีความมั่นใจในตนเอง

ช่วงอายุ 5-6 ปี

วัตถุประสงค์
    1. เพื่อส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และจินตนาการ
    2. เพื่อส่งเสริมการแสดงออก และมีความมั่นใจในตนเอง
สื่อวัสดุ/อุปกรณ์
    1. ฉาก
    2. ภาพสัตว์นานาชนิด
ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรม
     ขั้นนำ
     1. ครูนำภาพสัตว์มาให้เด็กดู สนทนาร่วมกันถึงลักษณะของสัตว์แต่ละชนิดและสวนสัตว์
ที่เด็กเคยพบเจอ
    ขั้นสอน
     1. ครูอธิบายและชี้แจงถึงขั้นตอนในการทำกิจกรรม
     2. เด็กๆ ลงมือทำกิจกรรมร่วมกันอย่างอิสระ และครูคอยสังเกตการทำกิจกรรมของเด็ก
     3. ให้เด็กๆวาดภาพสวนสัตว์ที่ตนเองเคยพบเจอ
    ขั้นสรุป
     1. ครูและเด็กร่วมกันสนทนาถึงประโยชน์ของกิจกรรมที่ได้ร่วมกันทำ
ประโยชน์จากการจัดกิจกรรม
     1. เพื่อส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และจินตนาการ
     2. เพื่อส่งเสริมการแสดงออก และมีความมั่นใจ    ในตนเอง
     3. เพื่อส่งเสริมให้เกิดความสนุกสนาน เพลิดเพลิน ผ่อนคลายความเครียด
การวัดและประเมินผล
     1. เด็กได้ฝึกทักษะทางความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และจินตนาการ
     2. เด็กได้ฝึกทักษะการแสดงออก และมีความมั่นใจในตนเอง
ปัญหาและอุปสรรค์ในการจัดกิจกรรม
     1.  รูปภาพสัตว์ที่เตรียมมาจัดกิจกรรมมีจำนวนน้อยเกินไป
สิ่งที่ควรปรับปรุงในการจัดกิจกรรม
     1.   ควรเพิ่มจำนวนของรูปภาพสัตว์ให้เยอะขึ้น
สรุปผลการประเมินพัฒนาการจากการจัดกิจกรรม
      1. เด็กได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และเสริมสร้างจินตนาการ
      2. เด็กได้สร้างความเชื่อมั่นในการแสดงออกที่จะทำผลงานร่วมกับผู้อื่น 
      3. เด็กมีความเพลิดเพลิน สนุกสนานในขณะทำกิจกรรมและชื่นชมในความสวยงามของผลงานที่
ตนได้ลงมือทำ


  กิจกรรมไหมพรมสร้างสรรค์  



ช่วงอายุ 4-5 ปี

จุดประสงค์
          1.เพื่อส่งเสริมทักษะการคิด การสังเกต และการแสดงความคิดออกมาอย่างสร้างสรรค์
          2.เพื่อส่งเสริมทักษะการแสดงความรู้สึกผ่านผลงานของตนเองและผู้อื่น
          3.เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้ฝึกทักษะการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก
          4.เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้ฝึกทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น และปฏิบัติตามข้อตกลง
สาระที่ควรเรียนรู้
          1.การใช้อุปกรณ์อย่างถูกวิธี
          2.การระมัดระวังในการใช้อุปกรณ์
อุปกรณ์
          1.กระดาน
          2.ไหมพรมหลากสี
3.ตะกร้าไหมพรม
ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรม
          ขั้นนำ
          1.ครูนำไหมพรมหลากสีมาให้เด็กดู และสนทนาร่วมกันถึงประโยชน์ของไหมพรมสามารถสร้างสรรค์
ผลงานได้ อย่างไรบ้าง
          2.ครูแบ่งกลุ่มเด็กออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ และร่วมกันสร้างข้อตกลงก่อนทำกิจกรรม
                             -การใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง ความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น
                             -การใช้อุปกรณ์และเก็บอุปกรณ์เมื่อทำกิจกรรมสำเร็จ
ขั้นสอน
          3.ครูแนะนำอุปกรณ์กิจกรรมไหมพรมสร้างสรรค์ และวิธีการใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง
          4.เด็กๆแต่ละกลุ่มช่วยกันเตรียมอุปกรณ์การทำกิจกรรมพรมไหมสร้างสรรค์
          5.ครูกระตุ้นการคิดเด็กก่อนการทำกิจกรรม “หากเด็กๆมีไหมพรมเหลือเพียง 2 เส้น
 เด็กๆนำช่วยกันสร้างสรรค์ไหมพรมเป็นอะไรได้บ้าง? ”
          6.เด็กสามารถสร้างสรรค์ผลงานจากไหมพรม 2 เส้นได้ ครูเพิ่มจำนวนไหมพรมหลากสีให้กับเด็กๆ
และให้เด็กๆสร้างสรรค์ผลงานจากไหมพรมหลากสี  
          7.ครูให้เด็กๆระดมความคิดสร้างสรรค์ไหมพรมเป็นรูปร่างต่างๆตามจินตนาการ
          8.เด็กช่วยกันสร้างสรรค์ผลงานจากไหมพรมหลากสีให้สำเร็จ และช่วยกันเก็บอุปกรณ์ให้เรียบร้อย
ขั้นสรุป
          9.ครูและเด็กร่วมกันสนทนาถึงประโยชน์ของไหมพรม และการนำไหมพรมมาสร้างสรรค์เป็นผลงาน
          10.ครูสนทนาร่วมกันกับเด็กจากแต่ละกลุ่มที่ได้ร่วมกัน สร้างสรรค์ผลงานจากไหมพรม 2 เส้น
          11.เด็กร่วมกันนำเสนอผลงานที่ได้สร้างสรรค์ขึ้นจากไหมพรมหลากสี และชื่นชมผลงานของแต่ละกลุ่ม
ประโยชน์ที่ได้รับจากการทำกิจกรรม
          1.เด็กได้ฝึกทักษะการคิดและการวางแผนในการทำงานร่วมกันผู้อื่น
          2เด็กได้ร่วมกันการคิดสร้างสรรค์ผล และแก้ไขปัญหา
          3.เด็กได้ฝึกทักษะการใช้จินตนาการและความสามารถของตนเอง
          4.เด็กได้แสดงความรู้สึกนึกคิดออกมาในวิถีที่สร้างสรรค์
การประเมินผล
          ครูประเมินพัฒนาการเด็กจากทำกิจกรรมไหมพรมสร้างสรรค์ โดยใช้เทคนิคการประเมินพัฒนาการ 
 เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน คือ การเขียนบันทึก ครูสังเกตขณะเด็กทำกิจกรรมและเขียนบันทึกเรื่องราวของ 
เด็กระหว่างเด็กทำกิจกรรม                                                                               
ปัญหาและอุปสรรค์ในการจัดกิจกรรม
         1.หมุดปักบนกระดาน มีจำนวนมากเกินไป ส่งผลให้เกิดข้อจำกัดในการโยงเส้นไหมพรม
         2.ความยาวของไหมพรม มีความยาวสั้นเกินไป จึงส่งผลให้การโยงเส้นยากมากขึ้น
         3.ขนาดของเส้นไหมพรมบางเกินไป ส่งผลให้เด็กจับโยงเส้นไหมพรมได้ยาก และใช้เวลานาน
สิ่งที่ควรปรับปรุงในการจัดกิจกรรม
          1.แก้ไขการวางระยะห่างของหมุด และลดจำนวนหมุดให้น้อยลง
          2.เพิ่มความยาวของไหมพรม
          3.เปลี่ยนขนาด เส้นไหมพรมให้หนา เพื่อให้เด็กสามารถโยงเส้นไหมพรมได้ง่ายขึ้น
สรุปผลการประเมินพัฒนาการจากการจัดกิจกรรม
          1.เด็กได้ฝึกทักษะการคิด การสังเกต และการแสดงความคิดออกมาอย่างสร้างสรรค์
          2.เด็กได้ฝึกทักษะการแสดงความรู้สึกผ่านผลงานของตนเองและผู้อื่น
          3.เด็กได้ฝึกทักษะการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก
          4.เด็กได้ฝึกทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น และปฏิบัติตามข้อตกลง

 ช่วงอายุ 5-6 ปี

จุดประสงค์
          1.เพื่อส่งเสริมทักษะการคิด การสังเกต และการแสดงความคิดออกมาอย่างสร้างสรรค์
          2.เพื่อส่งเสริมทักษะการแสดงความรู้สึกผ่านผลงานของตนเองและผู้อื่น
          3.เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้ฝึกทักษะการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก
          4.เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้ฝึกทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น และปฏิบัติตามข้อตกลง
สาระที่ควรเรียนรู้
          1.การใช้อุปกรณ์อย่างถูกวิธี
          2.การระมัดระวังในการใช้อุปกรณ์
อุปกรณ์
          1.กระดาน
          2.ไหมพรมหลากสี
3.ตะกร้าไหมพรม
ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรม
          ขั้นนำ
          1.ครูนำไหมพรมหลากสีมาให้เด็กดู และสนทนาร่วมกันถึงประโยชน์ของไหมพรม
สามารถสร้างสรรค์ผลงานได้ อย่างไรบ้าง
          2.ครูแบ่งกลุ่มเด็กออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ และร่วมกันสร้างข้อตกลงก่อนทำกิจกรรม
                             -การใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง ความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น
                             -การใช้อุปกรณ์และเก็บอุปกรณ์เมื่อทำกิจกรรมสำเร็จ
          ขั้นสอน
          3.ครูแนะนำอุปกรณ์กิจกรรมไหมพรมสร้างสรรค์ และวิธีการใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง
          4.เด็กๆแต่ละกลุ่มช่วยกันเตรียมอุปกรณ์การทำกิจกรรมพรมไหมสร้างสรรค์
          5.ครูกระตุ้นการคิดเด็กก่อนการทำกิจกรรม “หากเด็กๆมีไหมพรมเหลือเพียง 2 เส้น 
เด็กๆนำช่วยกันสร้างสรรค์ไหมพรมเป็นอะไรได้บ้าง? ”
          6.เด็กสามารถสร้างสรรค์ผลงานจากไหมพรม 2 เส้นได้ ครูเพิ่มจำนวนไหมพรมหลากสีให้กับเด็กๆ
และให้เด็กๆสร้างสรรค์ผลงานจากไหมพรมหลากสี  
          7.ครูให้เด็กๆระดมความคิดสร้างสรรค์ไหมพรมเป็นรูปร่างต่างๆตามจินตนาการ
          8.เด็กช่วยกันสร้างสรรค์ผลงานจากไหมพรมหลากสีให้สำเร็จ และช่วยกันเก็บอุปกรณ์ให้เรียบร้อย
         ขั้นสรุป
          9.ครูและเด็กร่วมกันสนทนาถึงประโยชน์ของไหมพรม และการนำไหมพรมมาสร้างสรรค์เป็นผลงาน
          10.ครูสนทนาร่วมกันกับเด็กจากแต่ละกลุ่มที่ได้ร่วมกัน สร้างสรรค์ผลงานจากไหมพรม 2 เส้น
          11.เด็กร่วมกันนำเสนอผลงานที่ได้สร้างสรรค์ขึ้นจากไหมพรมหลากสี และชื่นชมผลงานของแต่ละกลุ่ม
ประโยชน์ที่ได้รับจากการทำกิจกรรม
          1.เด็กได้ฝึกทักษะการคิดและการวางแผนในการทำงานร่วมกันผู้อื่น
          2เด็กได้ร่วมกันการคิดสร้างสรรค์ผล และแก้ไขปัญหา
          3.เด็กได้ฝึกทักษะการใช้จินตนาการและความสามารถของตนเอง
          4.เด็กได้แสดงความรู้สึกนึกคิดออกมาในวิถีที่สร้างสรรค์
การประเมินผล
          ครูประเมินพัฒนาการเด็กจากทำกิจกรรมไหมพรมสร้างสรรค์ โดยใช้เทคนิคการประเมิน
พัฒนาการ  เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน คือ การเขียนบันทึก ครูสังเกตขณะเด็กทำกิจกรรมและเขียนบันทึก               เรื่องราวของเด็กระหว่างเด็กทำกิจกรรม 


กิจกรรม หลอดสร้างสรรค์

ช่วงอายุ 45 ปี

จุดประสงค์
    1.   เพื่อส่งเสริมพัฒนาทักษะการคิดและเสริมสร้างจินตนาการของเด็กๆ
    2.   เพื่อให้เด็กๆ สามารถเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผลงานที่ตนเองทำตามความคิดและจินตนาการได้
    3.   เพื่อทำให้เด็กๆ มีความเพลิดเพลิน ชื่นชมในความสวยงาม สำนึกในคุณค่าของศิลปะ
อุปกรณ์
    1. หลอดหลากสี 
    2. กาวลาเท็กซ์ 
    3. เทปใส
    4. กรรไกร  
    5.  แผ่นรอง
ขั้นตอนการดำเนินการ
    ขั้นนำ
     1.  ครูนำหลอดหลากสีมาให้เด็กดู และสนทนาร่วมกันถึงประโยชน์ของหลอดหลากสีสามารถ
สร้างสรรค์ผลงานได้ อย่างไรบ้าง
     2. ครูแบ่งกลุ่มเด็กออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ และร่วมกันสร้างข้อตกลงก่อนทำกิจกรรม
                    - การใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง ความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น
                    - การใช้อุปกรณ์และเก็บอุปกรณ์เมื่อทำกิจกรรม
ขั้นสอน
3.   ครูแนะนำอุปกรณ์กิจกรรมหลอดสร้างสรรค์ และวิธีการใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง
4.   เด็กๆแต่ละกลุ่มช่วยกันเตรียมอุปกรณ์การทำกิจกรรมหลอดสร้างสรรค์
5.   ครูกระตุ้นการคิดเด็กก่อนการทำกิจกรรมหลอดเพื่อสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะตามความคิด
สร้างสรรค์ของกลุ่ม จนได้ผลงานจากหลอด
       6.   ครูให้เด็กๆระดมความคิดสร้างสรรค์หลอดเป็นรูปร่างต่างๆตามจินตนาการ
       7.   เด็กช่วยกันสร้างสรรค์ผลงานจากหลอดหลากสีให้สำเร็จ และช่วยกันเก็บอุปกรณ์ให้เรียบร้อย
      ขั้นสรุป
       8.   ครูและเด็กร่วมกันสนทนาถึงประโยชน์ของหลอด และการนำหลอดมาสร้างสรรค์เป็นผลงาน
       9.   ครูสนทนาร่วมกันกับเด็กจากแต่ละกลุ่มที่ได้ร่วมกัน สร้างสรรค์ผลงานจากหลอดหลากสี
       10.  เด็กร่วมกันนำเสนอผลงานที่ได้สร้างสรรค์ขึ้นจากหลอดหลากสีและชื่นชมผลงาน
ของแต่ละกลุ่มประโยชน์
       1. เด็กได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และเสริมสร้างจินตนาการ
       2. เด็กสามารถเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผลงานที่ตนเองทำตามความคิดและจินตนาการได้
      3. เด็กมีความเพลิดเพลิน สนุกสนานในขณะทำกิจกรรมและชื่นชมในความสวยงามของผลงานที่ตน
ได้ลงมือทำ

ช่วงอายุ 56 ปี

จุดประสงค์
      1.       เพื่อส่งเสริมพัฒนาทักษะการคิดและเสริมสร้างจินตนาการของเด็ก ๆ
      2.       เพื่อให้เด็ก ๆ สามารถเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผลงานที่ตนเองทำตามความคิดและจินตนาการได้
      3.       เพื่อทำให้เด็ก ๆ มีความเพลิดเพลิน ชื่นชมในความสวยงาม สำนึกในคุณค่าของศิลปะ
อุปกรณ์
      1.   หลอดหลากสี หลอดเล็ก - ใหญ่
      2.   กาวลาเท็กซ์ 
      3.   เทปใส
      4.   กรรไกร  
      5.   แผ่นรอง
ขั้นตอนการดำเนินการ
          ขั้นนำ
      1.      ครูนำหลอดหลากสี และขนาดหลอดเล็ก ใหญ่ มาให้เด็กดู และสนทนาร่วมกันถึงประโยชน์ของ
หลอดสามารถสร้างสรรค์ผลงานได้ อย่างไรบ้าง
       2.  ครูแบ่งกลุ่มเด็กออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ และร่วมกันสร้างข้อตกลงก่อนทำกิจกรรม
                    - การใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง ความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น
                    - การใช้อุปกรณ์และเก็บอุปกรณ์เมื่อทำกิจกรรม
ขั้นสอน
3.   ครูแนะนำอุปกรณ์กิจกรรมหลอดสร้างสรรค์ และวิธีการใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง
4.   เด็กๆแต่ละกลุ่มช่วยกันเตรียมอุปกรณ์การทำกิจกรรมหลอดสร้างสรรค์
5.   ครูกระตุ้นการคิดเด็กก่อนการทำกิจกรรมหลอดเพื่อสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะตามความคิด
สร้างสรรค์ของกลุ่ม จนได้ผลงานจากหลอด
      6.   ครูให้เด็กๆระดมความคิดสร้างสรรค์หลอดขนาดหลอดเล็ก ใหญ่ เป็นรูปร่างต่างๆตามจินตนาการ
      7.   เด็กช่วยกันสร้างสรรค์ผลงานจากหลอดหลากสีและหลอดขนาดเล็ก ใหญ่ให้สำเร็จ และช่วยกัน
เก็บอุปกรณ์ให้เรียบร้อย
ขั้นสรุป
       8.   ครูและเด็กร่วมกันสนทนาถึงประโยชน์ของหลอด และการนำหลอดขนาดเล็ก-ใหญ่ 
มาสร้างสรรค์เป็นผลงาน
       9.   ครูสนทนาร่วมกันกับเด็กจากแต่ละกลุ่มที่ได้ร่วมกัน สร้างสรรค์ผลงานจากหลอดหลากสี
       10.  เด็กร่วมกันนำเสนอผลงานที่ได้สร้างสรรค์ขึ้นจากหลอดขนาดเล็ก ใหญ่ 
และชื่นชมผลงานของแต่ละกลุ่ม
      ประโยชน์
       1. เด็กได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และเสริมสร้างจินตนาการ
       2. เด็กสามารถเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผลงานที่ตนเองทำตามความคิดและจินตนาการได้
       3. เด็กมีความเพลิดเพลิน สนุกสนานในขณะทำกิจกรรมและชื่นชมในความสวยงาม
ของผลงานที่ตนได้ลงมือทำ
การประเมินผล 
ครูประเมินพัฒนาการเด็กจากทำกิจกรรมหลอดสร้างสรรค์ โดยใช้เทคนิคการประเมินพัฒนาการเครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน คือ การเขียนบันทึก ครูสังเกตขณะเด็กทำกิจกรรมและเขียนบันทึกเรื่องราวของเด็กระหว่างเด็กทำกิจกรรม

ปัญหาและอุปสรรค์ในการจัดกิจกรรม
1.       เด็กบางคนจะใช้อุปกรณ์ยังไม่เป็น ส่งผลให้เด็กทำงานไม่ทันเพื่อน
2.       อุปกรณ์บางอย่างไม่เหมาะสมที่จะนำมาให้เด็กได้ทำกิจกรรม  
สิ่งที่ควรปรับปรุงในการจัดกิจกรรม
1.       คอยสังเกตเวลาที่เด็กสงสัยถึงอุปกรณ์ อธิบายและบอกว่าสิ่งนั้นคืออะไร มีวิธีใช้อย่างไร
2.       นำหลอดหลากสี และขนาดของหลอดที่เด็กๆ พบเห็นในชีวิตประจำวัน
3.       ไม่นำอุปกรณ์ที่อาจจะเกิดอันตรายต่อเด็กๆ มาจัดกิจกรรม
สรุปผลการประเมินพัฒนาการจากการจัดกิจกรรม
1. เด็กได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และเสริมสร้างจินตนาการ
2. เด็กสามารถเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผลงานที่ตนเองทำตามความคิดและจินตนาการได้
3. เด็กมีความเพลิดเพลิน สนุกสนานในขณะทำกิจกรรมและชื่นชมในความสวยงามของผลงานที่ตนได้ลงมือทำ

กิจกรรม ซาลอน..สวยด้วยมือเรา

     ช่วงอายุ 45 ปี

จุดประสงค์
   1.   เพื่อส่งเสริมพัฒนาทักษะการคิดและเสริมสร้างจินตนาการของเด็ก ๆ
   2.  เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการแสดงออกให้กับเด็ก ๆ
   3.   เพื่อให้เด็กๆ สามารถเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผลงานที่ตนเองทำตามความคิดและจินตนาการได้
   4.   เพื่อทำให้เด็กๆ มีความเพลิดเพลิน ชื่นชมในความสวยงาม สำนึกในคุณค่าของศิลปะ
อุปกรณ์
    1.   ผ้าตัดเป็นรูปทรงหน้า
    2.  อุปกรณ์แต่งหน้า เช่น ลิปสติก ที่ปัดแก้ม
    3.   สีไม้
    4.   ดินสอ / ยางลบ
    5.   พู่กัน

ขั้นตอนการดำเนินการ
          ขั้นนำ
      1.  ครูพาเด็ก ๆ ร้องเพลงร่างกายของเรา พร้อมทำท่าประกอบ
      2.  ครูและเด็ก ๆ ร่วมกันสนทนาถึง รูปร่าง หน้าตา ว่าเป็นอย่างไร มีอะไรบ้าง เพื่อสร้างความสนใจ
และความพร้อมในการทำกิจกรรมในครั้งนี้โดยแบ่งเด็กออกเป็นกลุ่มๆ ละ 4 –5 คน และสร้างข้อตกลง
ในการปฏิบัติกิจกรรม
ขั้นสอน
      3.  ครูพาเด็ก ๆ ร้องเพลงร่างกายของเรา พร้อมทำท่าประกอบ
      4.  ครูและเด็ก ๆ ร่วมกันสนทนาถึง รูปร่าง หน้าตา ว่าเป็นอย่างไร มีอะไรบ้าง เพื่อสร้างความสนใจ
และความพร้อมในการทำกิจกรรมในครั้งนี้โดยแบ่งเด็กออกเป็นกลุ่มๆ ละ 4 –5 คน 
และสร้างข้อตกลงในการปฏิบัติกิจกรรม
ขั้นสรุป
     5. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปถึงประโยชน์ของกิจกรรมที่ได้ร่วมกันทำในวันนี้ นักเรียนได้รับความรู้อะไรบ้างจากการสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะที่ครูนำมาจัดให้ และส่งผลต่อตนเอง  และต่อผู้อื่นอย่างไร
ประโยชน์
     1. เด็กได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และเสริมสร้างจินตนาการ
     2. เด็กได้สร้างความเชื่อมั่นในการแสดงออกที่จะทำผลงานร่วมกับผู้อื่น
     3. เด็กสามารถเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผลงานที่ตนเองทำตามความคิดและจินตนาการได้
     4. เด็กมีความเพลิดเพลิน สนุกสนานในขณะทำกิจกรรมและชื่นชมในความสวยงามของผลงาน
ที่ตนได้ลงมือทำ

ช่วงอายุ 56ปี

จุดประสงค์
      1.       เพื่อส่งเสริมพัฒนาทักษะการคิดและเสริมสร้างจินตนาการของเด็ก ๆ
      2.       เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการแสดงออกให้กับเด็ก ๆ
      3.       เพื่อให้เด็ก ๆ สามารถเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผลงานที่ตนเองทำตามความคิดและจินตนาการได้
      4.       เพื่อทำให้เด็ก ๆ มีความเพลิดเพลิน ชื่นชมในความสวยงาม สำนึกในคุณค่าของศิลปะ
อุปกรณ์
       1.       ผ้าตัดเป็นรูปทรงหน้า          
       2.  อุปกรณ์แต่งหน้า เช่น ลิปสติก ที่ปัดแก้ม
       3.       ไหมพรม                      
      4.  สีไม้
      5.       ดินสอ / ยางลบ                
      6.  กาว
      7.   พู่กัน

ขั้นตอนการดำเนินการ
    ขั้นนำ
      1.  ครูพาเด็กๆ ร้องเพลงร่างกายของเรา พร้อมทำท่าประกอบ
      2.  ครูและเด็กๆ ร่วมกันสนทนาถึง รูปร่าง หน้าตา ว่าเป็นอย่างไร มีอะไรบ้าง เพื่อสร้างความสนใจ
และความพร้อมในการทำกิจกรรมในครั้งนี้โดยแบ่งเด็กออกเป็นกลุ่มๆ ละ 4 –5 คน 
และสร้างข้อตกลงในการปฏิบัติกิจกรรม
ขั้นสอน
      3. ครูนำวัสดุ – อุปกรณ์มาให้เด็กแต่ละกลุ่มและ ครูอธิบาย ชี้แจงถึงขั้นตอนในการทำกิจกรรม
      4. เด็กๆ ลงมือปฏิบัติกิจกรรมอย่างอิสระ และครูคอยสังเกตการทำงานของเด็ก
      5. เมื่อนเด็กๆ แต่ละคนทำกิจกรรมเสร็จแล้ว ช่วยกันจัดเก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้าที่ให้เรียบร้อย 
 และครูให้นักเรียนแต่ละนำเสนอผลงานของตัวเอง
ขั้นสรุป
       6. ครูและเด็กๆ ร่วมกันสรุปถึงประโยชน์ของกิจกรรมที่ได้ร่วมกันทำในวันนี้นักเรียนได้รับความรู้อะไรบ้าง 
จากการสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะที่ครูนำมาจัดให้ ส่งผลต่อตนเองและส่งผมต่อผู้อื่นอย่างไรบ้าง
ประโยชน์
  1. เด็กได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และเสริมสร้างจินตนาการ
  2. เด็กได้สร้างความเชื่อมั่นในการแสดงออกที่จะทำผลงานร่วมกับผู้อื่น
  3. เด็กสามารถเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผลงานที่ตนเองทำตามความคิดและจินตนาการได้
  4. เด็กมีความเพลิดเพลิน สนุกสนานในขณะทำกิจกรรมและชื่นชมในความสวยงาม
ของผลงานที่ตนได้ลงมือทำ

การประเมินผล
ครูประเมินพัฒนาการเด็กจากทำกิจกรรมซาลอน...สวยด้วยมือเรา โดยใช้เทคนิคการประเมินพัฒนาการ
เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน คือ การเขียนบันทึก ครูสังเกตขณะเด็กทำกิจกรรมและเขียนบันทึกเรื่องราว
ของเด็กระหว่างเด็กทำกิจกรรม
ปัญหาและอุปสรรค์ในการจัดกิจกรรม
    1.       เด็กบางคนจะใช้อุปกรณ์ยังไม่เป็น ส่งผลให้เด็กทำงานไม่ทันเพื่อน
    2.       เครื่องสำอางบางอย่างเด็กไม่รู้จัก ทำให้เด็กมีความสับสนในการเลือกมาทำกิจกรรม
    3.       อปุกรณ์บางอย่างไม่เหมาะสมที่จะนำมาให้เด็กได้ทำกิจกรรม  
สิ่งที่ควรปรับปรุงในการจัดกิจกรรม
    1.  คอยสังเกตเวลาที่เด็กสงสัยถึงอุปกรณ์ หรือ เครื่องสำอาดที่เด็กไม่รู้ แล้วอธิบายและบอกว่าสิ่งนั้นคืออะไร มีวิธีใช้อย่างไร
    1.       นำเครื่องสำอางที่เด็ก ๆ พบเห็นเป็นส่วนใหญ่ในชีวิตประจำวัน
    2.       ไม่นำอุปกรณ์ หรือ เครื่องสำอาดที่อาจจะเกิดอันตรายต่อเด็ก ๆ มาจัดกิจกรรม
สรุปผลการประเมินพัฒนาการจากการจัดกิจกรรม
     1. เด็กได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และเสริมสร้างจินตนาการ
     2. เด็กได้สร้างความเชื่อมั่นในการแสดงออกที่จะทำผลงานร่วมกับผู้อื่น
     3. เด็กสามารถเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผลงานที่ตนเองทำตามความคิดและจินตนาการได้
     4. เด็กมีความเพลิดเพลิน สนุกสนานในขณะทำกิจกรรมและชื่นชมในความสวยงามของผลงานที่
ตนได้ลงมือทำ

กิจกรรม เชฟ ซุปเปอร์จิ๋ว



ช่วงอายุ4-5 ปี

จุดประสงค์
      1. เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดสร้างสรรค์อย่างอิสระ
      2.เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้รู้จักใช้จินตนาการและความสามารถของตนเอง
      3.เด็กสามารถแสดงความรู้สึกนึกคิดออกมาในวิถีที่สร้างสรรค์
      4.เพื่อส่งเสริมการแสดงออกทางการติดและจินตนาการผ่านการทำอาหาร
      5.เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการทำอาหาร
อุปกรณ์
      1.    ผักต่างๆ
      2.   ขนมปังแผ่นใหญ่
      3.   อุปกรณ์ทำอาหาร กระทะ ตะหลิว ช้อน ทัพพี จาน มีด
      4.   นมข้นหวาน

ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรมสำหรับเด็กอายุ4-5 ปี
ขั้นนำ
     1.ครูนำผักต่างๆและอุปกรณ์ครัวให้เด็กดู และสนทนาร่วมกันถึงผักต่างๆและอุปกรณ์ครัวว่ามีอะไรบ้าง 
     2.ครูแบ่งกลุ่มเด็กออกเป็น 2 กลุ่ม  และร่วมกันสร้างข้อตกลงก่อนทำกิจกรรม
                   - การใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง ความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น
                   - การใช้อุปกรณ์และเก็บอุปกรณ์เมื่อทำกิจกรรมสำเร็จ
ขั้นสอน
     3.ครูแนะนำอุปกรณ์กิจกรรมเชฟ ซุปเปอร์จิ๋ว โดยการให้เด็กตกแต่งหน้าขนมปังแผ่นใหญ่ 
และวิธีการใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง
     4.เด็กๆแต่ละกลุ่มช่วยกันเตรียมอุปกรณ์การทำกิจกรรม
     5.ครูให้เด็กแต่ละกลุ่มช่วยกันทำกิจกรรม
     ๖. หลังจากเสร็จกิจกรรมช่วยกันเก็บอุปกรณ์
ขั้นสรุป
     7.ครูและเด็กร่วมกันสนทนาถึงประโยชน์ของกิจกรรมเชฟ ซุปเปอร์จิ๋ว
ประโยชน์
     1.เด็กได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และเสริมสร้างจินตนาการ
2 เด็กได้ผ่อนคลายอารมณ์และเกิดความสนุกสนานในขณะทำกิจกรรม
3.เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการทำอาหาร
การประเมินผล
      1.เด็กได้ฝึกทักษะกล้ามเนื้อมือ
      2.เด็กได้ส่งเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์ได้ใช้จินตนาการ
      3.เด็กได้ฝึกทักษะการยอมรับความคิดเห็น และปฏิบัติตามข้อตกลง

ช่วงอายุ5-6 ปี


จุดประสงค์
1. เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดสร้างสรรค์อย่างอิสระ
2.เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้รู้จักใช้จินตนาการและความสามารถของตนเอง
3.เด็กสามารถแสดงความรู้สึกนึกคิดออกมาในวิถีที่สร้างสรรค์
4.เพื่อส่งเสริมการแสดงออกทางการติดและจินตนาการผ่านการทำอาหาร
5.เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการทำอาหาร
อุปกรณ์
5.       ผักต่างๆ
6.       ขนมปังแผ่นใหญ่
7.       อุปกรณ์ทำอาหาร กระทะ ตะหลิว ช้อน ทัพพี จาน มีด
8.       นมข้นหวาน

ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรมสำหรับเด็กอายุ5-6 ปี
ขั้นนำ
    1.ครูนำผักต่างๆและอุปกรณ์ครัวให้เด็กดู และสนทนาร่วมกันถึงผักต่างๆและอุปกรณ์ครัวว่ามีอะไรบ้าง
    2.ครูแบ่งกลุ่มเด็กออกเป็น 2 กลุ่ม  และร่วมกันสร้างข้อตกลงก่อนทำกิจกรรม
                   - การใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง ความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น
                   - การใช้อุปกรณ์และเก็บอุปกรณ์เมื่อทำกิจกรรมสำเร็จ
ขั้นสอน
     3.ครูแนะนำอุปกรณ์กิจกรรมเชฟ ซุปเปอร์จิ๋ว โดยการให้เด็กตกแต่งหน้าขนมปังแผ่นเล็ก 
และวิธีการใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง
     4.เด็กๆแต่ละกลุ่มช่วยกันเตรียมอุปกรณ์การทำกิจกรรม
     5.ครูให้เด็กแต่ละกลุ่มช่วยกันทำกิจกรรม
     ๖.หลังจากเสร็จกิจกรรมช่วยกันเก็บอุปกรณ์
ขั้นสรุป
     7.ครูและเด็กร่วมกันสนทนาถึงประโยชน์ของกิจกรรมเชฟ ซุปเปอร์จิ๋ว
ประโยชน์
    1.เด็กได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และเสริมสร้างจินตนาการ
    2 เด็กได้ผ่อนคลายอารมณ์และเกิดความสนุกสนานในขณะทำกิจกรรม
    3.เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการทำอาหาร
การประเมินผล
    1.เด็กได้ฝึกทักษะกล้ามเนื้อมือ
    2.เด็กได้ส่งเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์ได้ใช้จินตนาการ
    3.เด็กได้ฝึกทักษะการยอมรับความคิดเห็น และปฏิบัติตามข้อตกลง
ปัญหาและอุปสรรคในการจัดกิจกรรม
1.เตรียมวัสดุมาไม่เพียงพอ เช่น ขนมปัง เป็นต้น

สิ่งที่ควรปรับปรุงในการจัดกิจกรรม
     2.ควรเตรียมขนมปังมาให้เพียงพอสำหรับการจัดกิจกรรม
สรุปผลการประเมินพัฒนาการจากการจัดกิจกรรม
    1.เด็กได้ฝึกทักษะการคิด การสังเกต และการแสดงความคิดออกมาอย่างสร้างสรรค์
    2.เด็กได้ฝึกทักษะการแสดงความรู้สึกผ่านผลงานของตนเองและผู้อื่น
    3.เด็กได้ฝึกทักษะการใช้กล้ามเนื้อมือ
    4.เด็กได้ฝึกทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น และปฏิบัติตามข้อตกลง

               กิจกรรม สร้างภาพด้วยนิ้วมือ

ช่วงอายุ 4 5 ปี

จุดประสงค์
     1. เด็กสามารถใช้ปลายนิ้วมือข้อปลายสุดจุ่มสีน้ำแล้วกดลงบนผ้าได้
     2. เด็กสามารถบอกหรือเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผลงานที่ตนเองทำได้
     3. เด็กสามารถทำกิจกรรมได้อย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน
สาระที่ควรเรียนรู้
     1.การใช้อุปกรณ์อย่างถูกวิธี
     2.การแบ่งปัน
อุปกรณ์
     1.ผ้า
     2.สีจากธรรมชาติ
     3.ภาชนะใส่สี
     4.ผ้าชุดน้ำไว้สำหรับเช็ดมือเวลาเปลี่ยนสี
ขั้นดำเนินกิจกรรม
ขั้นนำ
     1.ครูนำดอกไม้ที่มีสีมาให้เด็กดู สนทนาร่วมกันถึงลักษณะดอกไม้แต่ละชนิดที่ครูนำมา 
และสนทนาเกี่ยวกับดอกไม้ที่เด็กๆ เคยพบเจอ
ขั้นสอน
     1. ใช้นิ้วมือข้อปลายสุดจุ่มสีน้ำแล้วแตะลงบนสี
     2. นำนิ้วมือที่จุ่มสีน้ำกดลงบนผ้าที่เตรียมไว้
ขั้นสรุป
ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปถึงประโยชน์ของดอกไม้แต่ละชนิดที่นำมาทำกิจกรรมในวันนี้ 
นักเรียนได้รับความรู้อะไรบ้าง จากการสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะที่ครูนำมาจัดให้ 
และได้ความรู้อย่างไรบ้าง

ช่วงอายุ 5 6ปี

จุดประสงค์
     1. เด็กสามารถใช้ปลายนิ้วมือข้อปลายสุดจุ่มสีน้ำแล้วกดลงบนผ้าได้
     2. เด็กสามารถบอกหรือเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผลงานที่ตนเองทำได้
     3. เด็กสามารถทำกิจกรรมได้อย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน
อุปกรณ์
     1.ผ้า
     2.สีจากธรรมชาติ
     3.ภาชนะใส่สี
     4.ผ้าชุดน้ำไว้สำหรับเช็ดมือเวลาเปลี่ยนสี
     5.ดินสอ/สี

ขั้นดำเนินกิจกรรม
ขั้นนำ
     1.ครูนำดอกไม้ที่มีสีมาให้เด็กดู สนทนาร่วมกันถึงลักษณะดอกไม้แต่ละชนิดที่ครูนำมา
 และสนทนาเกี่ยวกับดอกไม้ที่เด็กๆ เคยพบเจอ
ขั้นสอน
    1. ใช้นิ้วมือข้อปลายสุดจุ่มสีน้ำแล้วแตะลงบนสี
    2. นำนิ้วมือที่จุ่มสีน้ำกดลงบนผ้าที่เตรียมไว้
    3. ใช้ดินสอสีวาดต่อเติมเป็นภาพต่าง ๆ ตามความคิดของเด็กแต่ละคน
    4.ให้เด็กๆออกมาเล่าเรื่องราวที่เด็กวาด
ขั้นสรุป
    ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปถึงประโยชน์ของดอกไม้แต่ละชนิดที่นำมาทำกิจกรรมในวันนี้ 
นักเรียนได้รับความรู้อะไรบ้าง จากการสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะที่ครูนำมาจัดให้และได้ความรู้อย่างไร
ประโยชน์ที่ได้รับจากการทำกิจกรรม
     1.เพื่อส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และจินตนาการ
     2.เด็กสามารถเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผลงานที่ตนเองทำตามความคิดและจินตนาการได้
     3.นักเรียนมีความเพลิดเพลิน สนุกสนานในขณะทำกิจกรรมและ ชื่นชมในความสวยงาม
ของผลงานที่ตนได้ลงมือทำ
การประเมินผล
     1.  นักเรียนได้ฝึกทักษะการคิด และการแก้ไขปัญหา
     2. ได้ส่งเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์
     3. นักเรียนได้ใช้จินตนาแสดงผ่านผลงานได้อย่างสร้างสรรค์
ปัญหาและอุปสรรค์ในการจัดกิจกรรม
     1.เด็กบางคนไม่กล้าใช้นิ้วจุ่มสี
     2.สีธรรมชาติที่นำมาใช้ไม่ค่อยติผ้า
สิ่งที่ควรปรับปรุงในการจัดกิจกรรม
     1.ควรใช้กระดาษแทนผ้า
     2.จัดตกแต่งกิจกรรมให้มีสีสันให้น่าเล่นมากขึ้น
สรุปผลการประเมินพัฒนาการจากการจัดกิจกรรม
     1. เด็กได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และเสริมสร้างจินตนาการ
     2. เด็กได้สร้างความเชื่อมั่นในการแสดงออกที่จะทำผลงานร่วมกับผู้อื่น
     3. เด็กสามารถเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผลงานที่ตนเองทำตามความคิดและจินตนาการได้
     4. เด็กมีความเพลิดเพลิน สนุกสนานในขณะทำกิจกรรมและชื่นชมในความสวยงาม
ของผลงานที่ตนได้ลงมือทำ



















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น