กลุ่มที่ 6
พัฒนาการและการเรียนรู้
ความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย
ความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย
ความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย
องค์ประกอบของความคิดสร้างสรรค์นี้ได้รับอิทธิพลมาจากทฤษฎีโครงสร้างทางสติปัญญาของกิลฟอร์ด ซึ่งเชื่อว่าความคิดสร้างสรรค์เป็นความสามารถทางสมองที่คิดได้อย่างซับซ้อน กว้างไกล หลายทิศทาง หรือที่เรียกว่า คิดอเนกนัย ซึ่งประกอบด้วย ความคิดริเริ่ม ความคิดคล่องแคล่ว ความคิดยืดหยุ่น ความคิดละเอียดลออ
กิลฟอร์ด ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับองค์ประกอบของความคิดสร้างสรรค์ไว้ดังนี้
1. ความคิดริเริ่ม (Originality) หมายถึง ความคิดแปลกใหม่ไม่ซ้ำกันกับความคิดของคนอื่น และแตกต่างจากความคิดธรรมดา ความคิดริเริ่มอาจเกิดจากการคิดจากเดิมที่มีอยู่แล้วให้แปลกแตกต่างจากที่เคยเห็น หรือสามารถพลิกแพลงให้กลายเป็นสิ่งที่ไม่เคยคาดคิด ความคิดริเริ่มอาจเป็นการนำเอาความคิดเก่ามาปรุงแต่งผสมผสานจนเกิดเป็นของใหม่ ความคิดริเริ่มมีหลายระดับซึ่งอาจเป็นความคิดครั้งแรกที่เกิดขึ้นโดยไม่มีใครสอนแม้ความคิดนั้นจะมีผู้อื่นคิดไว้ก่อนแล้วก็ตาม
2. ความคิดคล่องแคล่ว (Fluency) หมายถึง ปริมาณความคิดที่ไม่ซ้ำกันในเรื่องเดียวกัน โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้
- ความคล่องแคล่วทางด้านถ้อยคำ (Word Fluency) เป็นความสามารถในการใช้ถ้อยคำอย่างคล่องแคล่ว
- ความคิดคล่องแคล่วทางด้านการโยงสัมพันธ์ (Associational Fluency) เป็นความสามารถที่จะคิดหาถ้อยคำที่เหมือนกันได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ภายในเวลาที่กำหนด
- ความคล่องแคล่วทางด้านการแสดงออก (Expression Fluency) เป็นความสามารถในการใช้วลีหรือประโยค กล่าวคือ สามารถที่จะนำคำมาเรียงกันอย่างรวดเร็วเพื่อให้ได้ประโยคที่ต้องการ
- ความคล่องแคล่วในการคิด (Ideational Fluency) เป็นความสามารถที่จะคิดค้นสิ่งที่ต้องการภายในเวลาที่กำหนด เช่น ใช้คิดหาประโยชน์ของก้อนอิฐให้ได้มากที่สุดภายในเวลาที่กำหนดซึ่งอาจเป็น 5 นาที หรือ 10 นที
3. ความคิดยืดหยุ่น (Flexibility) หมายถึง ประเภทหรือแบบของการคิดแบ่งออกเป็น
- ความคิดยืดหยุ่นที่เกิดขึ้นทันที (Spontaneous Flexibility) เป็นความสามารถที่จะพยายามคิดได้หลายทางอย่างอิสระ ตัวอย่างของคนที่มีความคิดยืดหยุ่นในด้านนี้จะคิดได้ว่าประโยชน์ของหนังสือพิมพ์มีอะไรบ้าง ความคิดของผู้ที่ยืดหยุ่นสามารถจัดกลุ่มได้หลายทิศทางหรือหลายด้าน เช่น เพื่อรู้ข่าวสาร เพื่อโฆษณาสินค้า เพื่อธุรกิจ ฯลฯ ในขณะที่คนที่ไม่มีความคิดสร้างสรรค์จะคิดได้เพียงทิศทางเดียว คือ เพื่อรู้ข่าวสาร เท่านั้น
- ความคิดยืดหยุ่นทางด้านการดัดแปลง (Adaptive Flexibility) หมายถึง ความสามารถในการดัดแปลงความรู้ หรือประสบการณให้เกิดประโยชน์หลายๆ ด้าน ซึ่งมีประโยชน์ต่อการแก้ปัญหา ผู้ที่มีความยืดหยุ่นจะคิดดัดแปลงได้ไม่ซ้ำกัน
4. ความคิดละเอียดละออ (Elaboration) หมายถึง ความคิดในรายละเอียดเป็นขั้นตอน สามารถอธิบายให้เห็นภาพชัดเจน หรือเป็นแผนงานที่สมบูรณ์ขึ้น ความคิดละเอียดละออจัดเป็นรายละเอียดที่นำมาตกแต่ง ขยายความคิดครั้งแรกให้สมบูรณ์ขึ้น
แอนเดอร์สัน (Anderson. 1957) กล่าวว่า ความแตกต่างของบุคคลอยู่ที่ความคิด สร้างสรรค์และ ประสบการณ์เป็นสำคัญ พร้อมทั้งได้แบ่งกระบวนการด้านความคิดสร้างสรรค์ ออกเป็น 6 ขั้น คือ
ขั้นที่ 1 สนใจและรู้ถึงความต้องการของจิตใจและสมอง
ขั้นที่ 2 รวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์และสิ่งที่น่าสนใจ
ขั้นที่ 3 ไตร่ตรองถึงการวางแผน โครงร่างและรูปแบบของงาน
ขั้นที่ 4 จากผลข้อ 1 - 3 ทำให้เกิดจินตนาการ
ขั้นที่ 5 สร้างจินตนาการออกมาให้เป็นความจริง และแสดงผลให้เห็นได้ชัด
ขั้นที่ 6 รวบรวมความคิด และแสดงออกมาในรูปของผลงาน
ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ได้กล่าวถึงความคิดสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัยไว้ดังนี้
ความคิดสร้างสรรค์เกิดจากการประสานความสามารถตามธรรมชาติของมนุษย์ในสองส่วน ประกอบที่สำคัญ คือ “ความสามารถในการคิด” และ “ความสามารถในการสร้างสรรค์” ซึ่ง อาจจะมีอยู่ในบุคคลเดียวกัน หรือบางคนอาจมีเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งก็เป็นได้ความสามารถในการคิด เป็นผลผลิตจากกระบวนการทำงานของสมองของมนุษย์ที่คิดอยู่เกือบตลอดเวลา ลักษณะการ คิดแบ่งเป็นการคิดแบบไม่มีจุดมุ่งหมาย (undirected cognition) เป็นการคิดแบบอิสระ ปะติด ปะต่อกันโดยปราศจากการจัดระเบียบ เปลี่ยนไปตามความสนใจหรือเหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามาขณะนั้น และไม่มีการตั้งวัตถุประสงค์ ส่วนการคิดแบบมีจุดมุ่งหมาย (directed cognition) เป็นการคิดแบบ มีทิศทาง มีการจัดระบบระเบียบและวัตถุประสงค์เฉพาะ โดยอาศัยกระบวนการทำงานของสมอง อย่างเป็นขั้นตอน ตั้งแต่การรับรู้ การตีความ ความจำ สมมติฐาน จนกระถึงการสรุปผล สำหรับ ความสามารถในการสร้างสรรค์ หมายถึง การสร้างการกระทำให้เกิดขึ้น เป็นได้ทั้งกระบวนการ วิธีการรวมไปถึงลักษณะทางผลิตผลหรือชิ้นงาน
แนวทางการจัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์
การจัดกิจกรรมควรคำนึงถึงตัวเด็กเป็นสำคัญเพราะเด็กแต่ละคนมีความสนใจที่แตกต่างกันดังนั้น คุณครูควรมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย ตรงกับความสนใจและความสามารถของเด็ก จะจัดเป็นแบบกลุ่มใหญ่หรือเป็นรายบุคคลก็ได้ค่ะและควรมีการจัดกิจกรรมทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียนเพื่อเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศและให้เด็กเกิดความผ่อนคลายได้คิดและใช้จินตนาการได้อย่างเต็มที่ส่วนระยะเวลาในการจัดกิจกรรมแนะนำให้จัดตามความเหมาะสมกับวัยและสามารถยืดหยุ่นได้ตามความสนใจของเด็ก
กิจกรรมรูปเรขาคณิตมหาสนุก
ช่วงอายุ 4-5 ปี
จุดประสงค์
1.เพื่อส่งเสริมการพัฒนาทักษะในด้านการคิดสร้างสรรค์
2.เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้รู้จักใช้จินตนาการจับคู่เปรียบเทียบและเชื่อมโยงสิ่งต่างๆที่มีลักษณะเหมือนกับรูปเรขาคณิต
สาระที่ควรเรียนรู้
1.การใช้อุปกรณ์อย่างถูกวิธี
2.รูปเรขาคณิต
อุปกรณ์
1.ตัวอย่างรูปเรขาคณิต
2.บัตรภาพรูปเรขาคณิต
3. บัตรภาพสิ่งต่างๆที่มีลักษณะเป็นรูปเรขาคณิต
ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรม
ขั้นนำ
1.ครูนำรูปภาพเรขาคณิตมาให้เด็กๆดู อธิบายและยกตัวอย่างสิ่งต่างๆที่มีลักษณะคล้ายกับรูปเรขา คณิตแบบต่างๆ
2.ครูและเด็กร่วมกันสร้างข้อตกลงก่อนทำกิจกรรม
2.1 การใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง รักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น
2.2 การเก็บของเข้าที่
ขั้นสอน
3. ครูอธิบายวิธีการทำกิจกรรมดังนี้
3.1 ให้เด็กๆหยิบบัตรภาพรูปเรขาคณิตทีละภาพ
3.2 จากนั้นให้เด็กจับคู่กับบัตรภาพสิ่งของต่างๆที่มีมีลักษณะเหมือนกับรูปเรขาคณิตนั้น
ขั้นสรุป
4.ครูและเด็กร่วมกันสรุปเกี่ยวกับกิจกรรมรูปเรขาคณิตมหาสนุก
4.1 รูปเรขาคณิตมีรูปอะไรบ้าง
4.2 ยกตัวอย่างลักษณะสิ่งต่างๆรอบตัวที่มีลักษณะเหมือนรูปเรขาคณิต
ประโยชน์ที่ได้รับจากการทำกิจกรรม
1.เด็กได้รู้จักใช้จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์
2.เด็กได้พัฒนาทักษะในด้านการคิดสร้างสรรค์
3.เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับรูปเรขาคณิต
การประเมินผล
1.เด็กบอกรูปเรขาคณิตต่างๆได้
2.เด็กสามารถบอกและจับคู่เปรียบเทียบสิ่งต่างๆรอบตัวที่มีลักษณะเหมือนกับรูปเรขาคณิตได้
ช่วงอายุ 5-6 ปี
จุดประสงค์
1.เพื่อส่งเสริมการพัฒนาทักษะในด้านการคิดสร้างสรรค์
2.เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้รู้จักใช้จินตนาการในการเปรียบเทียบและเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ
ที่มีลักษณะเหมือนกับรูปเรขาคณิต
ที่มีลักษณะเหมือนกับรูปเรขาคณิต
สาระที่ควรเรียนรู้
1.การใช้อุปกรณ์อย่างถูกวิธี
2.รูปเรขาคณิต
อุปกรณ์
1.ตัวอย่างรูปเรขาคณิต
2.แผ่นภาพรูปเรขาคณิตที่ติดกับพื้น
3.บัตรภาพรูปเรขาคณิต
ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรม
ขั้นนำ
1.ครูนำรูปภาพเรขาคณิตมาให้เด็กๆดู อธิบายและยกตัวอย่างสิ่งต่างๆที่มีลักษณะคล้าย
กับรูปเรขาคณิตแบบต่างๆ
กับรูปเรขาคณิตแบบต่างๆ
2.ครูและเด็กร่วมกันสร้างข้อตกลงก่อนทำกิจกรรม
2.1 การใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง รักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น
2.2 การเก็บของเข้าที
ขั้นสอน
3. ครูอธิบายวิธีการทำกิจกรรมดังนี้
3.1 ให้เด็กๆกระโดดไปที่ตามจุดต่างๆที่มีรูปภาพเรขาคณิตติดอยู่
3.2 จากนั้นให้เด็กบอกว่ารูปเรขาคณิตนั้นคือรูปอะไร และให้เปรียบเทียบและยกตัวอย่างสิ่งต่างๆ
ที่มีลักษณะเหมือนกับรูปเรขาคณิตนั้น
ที่มีลักษณะเหมือนกับรูปเรขาคณิตนั้น
ขั้นสรุป
4.ครูและเด็กร่วมกันสรุปเกี่ยวกับกิจกรรมรูปเรขาคณิตมหาสนุก
4.1 รูปเรขาคณิตมีรูปอะไรบ้าง
4.2 ยกตัวอย่างลักษณะสิ่งต่างๆรอบตัวที่มีลักษณะเหมือนรูปเรขาคณิต
ประโยชน์ที่ได้รับจากการทำกิจกรรม
1.เด็กได้รู้จักใช้จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์
2.เด็กได้พัฒนาทักษะในด้านการคิดสร้างสรรค์
3.เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับรูปเรขาคณิต
การประเมินผล
1.เด็กสามารถบอกและอธิบายลักษณะรูปเรขาคณิตแบบต่างๆได้
2.เด็กสามารถบอกและเปรียบเทียบสิ่งต่างๆรอบตัวที่มีลักษณะเหมือนกับรูปเรขาคณิตได้
ปัญหาและอุปสรรค์ในการจัดกิจกรรม
1.ใช้เวลาในการทำกิจกรรมมากไป เด็กอาจเริ่มสนใจในการทำกิจกรรมน้อยลง
สิ่งที่ควรปรับปรุงในการจัดกิจกรรม
1.ให้เด็กได้มีอิสระในการทำกิจกรรมด้วยตนเองเพิ่มขึ้น
2.ให้เด็กได้สร้างสรรค์ผลงานจากสิ่งที่เรียนรู้
3.เพิ่มบัตรภาพสิ่งต่างๆที่มีลักษณะเหมือนรูปเรขาคณิตให้มีความหลากหลาย
สรุปผลการประเมินพัฒนาการจากการจัดกิจกรรม
1.เด็กได้รู้จักใช้จินตนาการและพัฒนาทักษะในด้านการคิดสร้างสรรค์
2.เด็กได้ทักษะการคิดแบบริเริ่ม คล่องตัว ยืดหยุ่น
3.เด็กสามารถในการเชื่อมโยง ยกตัวและเปรียบเทียบสิ่งต่างๆรอบตัวที่มีลักษณะเหมือนกับรูปเรขาคณิตได้
กิจกรรม เอ๊ะ อะไรเอ่ย?
ช่วงอายุ 4 – 5 ปี
จุดประสงค์
1.เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้รู้จักใช้จินตนาการและความสามารถของตนเอง
2.ส่งเสริมการใช้ภาษาในการพูด เล่าเรื่องราวที่จินตนาการ
3.เพื่อส่งเสริมการแสดงออกทางการคิดและจินตนาการผ่านการพูด
4.เพื่อส่งเสริมการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5
อุปกรณ์
1. ผัก ผลไม้ เช่น ส้ม มะนาว ชมพู แตงกวา
2. ผ้าปิดตา
3. กล่องปริศนา
ขั้นตอนการดำเนินการ
ขั้นนำ
1.ครูนำกล่องปริศนามาให้เด็กๆดู และสนทนาร่วมกันถึงกล่องปริศนานี่ว่าคืออะไร
2.ครูสนทนากับเด็กๆและร่วมกันสร้างข้อตกลงก่อนทำกิจกรรม
- การใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง ความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น
- การใช้อุปกรณ์และเก็บอุปกรณ์เมื่อทำกิจกรรมสำเร็จ
ขั้นสอน
3.เด็กๆช่วยกันเตรียมอุปกรณ์การทำกิจกรรม
4.ครูให้เด็กๆแต่ละคนต่อเป็นแถวและให้คนที่อยู่ข้างหน้าปิดตา
และเดินไปล้วงของในกล่องปริศนาแล้วชิม ดม ว่าสิ่งนั้นคืออะไร
และเดินไปล้วงของในกล่องปริศนาแล้วชิม ดม ว่าสิ่งนั้นคืออะไร
5. หลังจากที่ล้วงกล่องแล้วทายว่าของสิ่งนั้นคืออะไร และให้เด็กๆเล่ามาสิ่งนั้นเป็นอย่างไร
6. หลังจากเสร็จกิจกรรมช่วยกันเก็บอุปกรณ์
ขั้นสรุป
7.ครูและเด็กๆร่วมกันสนทนาถึงประโยชน์ของกิจกรรมเอ๊ะ อะไรเอ่ย
8.ครูสนทนาร่วมกันกับเด็กๆที่ได้ทำกิจกรรมเอ๊ะ อะไรเอ่ย? ได้เล่าเรื่องต่างๆที่ได้ทำกิจกรรม
ประโยชน์
1.ได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และเสริมสร้างจินตนาการ
2.เด็กๆสามารถเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งที่ตนเองคิดและจินตนาการไว้
3.ได้ผ่อนคลายอารมณ์และเกิดความสนุกสนานในขณะทำกิจกรรม
ช่วงอายุ 5 – 6ปี
จุดประสงค์
1. เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดสร้างสรรค์และการแก้ไขปัญหาอย่างอิสระ
2.เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้รู้จักใช้จินตนาการและความสามารถของตนเอง
3.ส่งเสริมการใช้ภาษาในการพูด เล่าเรื่องราวที่จินตนาการ
4.เพื่อส่งเสริมการแสดงออกทางการคิดและจินตนาการผ่านการพูดและงานศิลปะ
5.เพื่อส่งเสริมการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5
อุปกรณ์
1. ผัก ผลไม้ เช่น ส้ม มะนาว ชมพู แตงกวา
2. กระดาษ
3. สีผสมอาหาร
4. ผ้าปิดตา
5. พู่กันขนาดแตกต่างกัน
6. กล่องปริศนา
ขั้นตอนการดำเนินการ
ขั้นนำ
1.ครูนำกล่องปริศนามาให้เด็กดู และสนทนาร่วมกันถึงกล่องปริศนานี่ว่าคืออะไร
2.ครูสนทนากับเด็กและร่วมกันสร้างข้อตกลงก่อนทำกิจกรรม
- การใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง ความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น
- การใช้อุปกรณ์และเก็บอุปกรณ์เมื่อทำกิจกรรมสำเร็จ
ขั้นสอน
3.เด็กๆช่วยกันเตรียมอุปกรณ์การทำกิจกรรม
4.ครูให้เด็กแต่ละคนต่อเป็นแถวและให้คนที่อยู่ข้างหน้าปิดตา
และเดินไปล้วงของในกล่องปริศนาแล้วชิม ดม ว่าสิ่งนั้นคืออะไร
และเดินไปล้วงของในกล่องปริศนาแล้วชิม ดม ว่าสิ่งนั้นคืออะไร
5. หลังจากที่ล้วงกล่องแล้วทายว่าของสิ่งนั้นคืออะไร และให้เด็กๆวาดภาพที่เด็กๆ
สัมผัสนั้นลงในกระดาษ โดยจะมีกระดาษและมีสีวางอยู่ข้างๆ
สัมผัสนั้นลงในกระดาษ โดยจะมีกระดาษและมีสีวางอยู่ข้างๆ
6. หลังจากเสร็จกิจกรรมช่วยกันเก็บอุปกรณ์
ขั้นสรุป
7.เด็กร่วมกันนำเสนอผลงานที่ได้สร้างสรรค์ขึ้นจากวาดภาพและชื่นชมผลงานของแต่ละคน
8.ครูสนทนาร่วมกันกับเด็กๆที่ได้ทำกิจกรรมเอ๊ะ อะไรเอ่ย? สร้างสรรค์ผลงาน
จากการวาดภาพที่ได้สัมผัส
จากการวาดภาพที่ได้สัมผัส
9.ครูและเด็กร่วมกันสนทนาถึงประโยชน์ของกิจกรรมเอ๊ะ อะไรเอ่ย?
ประโยชน์
1.ได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และเสริมสร้างจินตนาการ
2.เด็กสามารถเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผลงานที่ตนเองทำตามความคิดและจินตนาการได้
3.ได้ผ่อนคลายอารมณ์และเกิดความสนุกสนานในขณะทำกิจกรรม
4. เด็กสามารถปฏิบัติตามกฎที่ครูตั้งไว้ได้
การประเมินผล
1.เด็กได้ฝึกทักษะการคิด และการแก้ไขปัญหาอย่างอิสระ
2.เด็กทักษะการยอมรับความคิดเห็น และปฏิบัติตามข้อตกลง
3.ประเมินจากการสังเกตการตอบคำถาม การเล่าเรื่อง และเขียนบันทึกระหว่างเด็กทำกิจกรรม
4.เด็กได้ทักษะความคิดสร้างสรรค์ ได้ใช้จินตนาการแสดงผ่านผลงานได้อย่างสร้างสรรค์
5.เด็กสามารถแสดงความรู้สึกนึกคิดการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5ออกมาในวิถีที่สร้างสรรค์
กิจกรรม หนูน้อยนักเล่า
ช่วงอายุ4 – 5 ปี
จุดประสงค์
1.เพื่อส่งเสริมการพัฒนาทักษะในด้านการคิดสร้างสรรค์
2.เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้รู้จักใช้จินตนาการ ในการเล่าเรื่องจากภาพ
3.เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแบบริเริ่ม คล่องตัว ยืดหยุ่น และละเอียดลออ
สาระที่ควรเรียนรู้
1.การใช้อุปกรณ์อย่างถูกวิธี
2.การแบ่งปัน
สื่อ/อุปกรณ์
· ลูกเต๋าแสนสนุก
ขั้นตอนการดำเนินการ
ขั้นนำ
ครูและเด็กกล่าวทักทายสนทนาร่วมกันเกี่ยวกับกิจกรรมแสนลูกเต๋ามาให้เด็กๆดูและให้เด็กๆ
นั่งเป็นวงกลม และร่วมกันสร้างข้อตกลงก่อนทำกิจกรรมดังนี้
นั่งเป็นวงกลม และร่วมกันสร้างข้อตกลงก่อนทำกิจกรรมดังนี้
-การรู้จักแบ่งปัน
-การเก็บของเข้าที
ขั้นสอน
1.ครูนำกล่องลูกเต๋ามาให้เด็กๆดู และรวมกันสนทนาถึงรูปภาพในลูกเต๋า โดยใช้คำถาม
- เด็ก ๆ ลองคิดดูซิว่า ในลูกเต๋านี้มีรูปอะไรอยู่
2.โดยครูให้เด็กๆ ตกลงกันว่าให้จะเป็นคนเริ่มก่อน และให้เด็กๆหนึ่งคน
คนทอยลูกเต๋า 2 ลูกพร้อมกัน
คนทอยลูกเต๋า 2 ลูกพร้อมกัน
3.แล้วให้เด็กๆเล่าเรื่องราวจากรูปภาพที่ได้ ให้เพื่อนๆฟังให้ครบทุกคน
ขั้นสรุป
ครูและเด็กรวมกันสนทนาถึงกิจกรรมที่เด็กๆเล่าเรื่อง
ประโยชน์ที่ได้รับจากการทำกิจกรรม
1.เด็กได้รู้จักใช้จินตนาการและพัฒนาทักษะในด้านการคิดสร้างสรรค์
2.เด็กได้ทักษะการคิดแบบริเริ่ม คล่องตัว ยืดหยุ่น
3.เด็กสามารถในการเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ แม้จะเข้าใจในความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผล
การประเมินผล
ครูสังเกตและบันทึกเรื่องราวของเด็กระหว่างเด็กทำกิจกรรม
ช่วงอายุ 5-6ปี
จุดประสงค์
1.เพื่อส่งเสริมการพัฒนาทักษะในด้านการคิดสร้างสรรค์
2.เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้รู้จักใช้จินตนาการในการเล่าเรื่องจากภาพ
3.เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแบบริเริ่ม คล่องตัว ยืดหยุ่น
4.เพื่อส่งเสริมการเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผล
สาระที่ควรเรียนรู้
1.การใช้อุปกรณ์อย่างถูกวิธี
2.การแบ่งปัน
สื่อ/อุปกรณ์
· ลูกเต๋าแสนสนุก
ขั้นตอนการดำเนินการ
ขั้นนำ
ครูและเด็กกล่าวทักทายสนทนาร่วมกันเกี่ยวกับกิจกรรมแสนลูกเต๋ามาให้เด็กๆดูและให้เด็กๆนั่งเป็นวงกลม และร่วมกันสร้างข้อตกลงก่อนทำกิจกรรมดังนี้
-การรู้จักแบ่งปัน
-การใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง ความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น
-การเก็บของเข้าที
ขั้นสอน
1. ครูนำกล่องลูกเต๋ามาให้เด็กๆดู และรวมกันสนทนาถึงรูปภาพในลูกเต๋า โดยใช้คำถาม
- เด็ก ๆ ลองคิดดูซิว่า ในลูกเต๋านี้มีรูปอะไรอยู่
-เด็กๆจะเล่าเรื่องอะไรคะ
2. โดยครูให้เด็กๆ ตกลงกันว่าให้จะเป็นคนเริ่มก่อน และให้เด็กๆหนึ่งคน
คนทอยลูกเต๋า 4 ลูก พร้อมกัน
คนทอยลูกเต๋า 4 ลูก พร้อมกัน
3. แล้วให้เด็กๆเล่าเรื่องราวจากรูปภาพที่ได้ ให้เพื่อนๆฟังให้ครบทุกคน
ขั้นสรุป
ครูและเด็กรวมกันสนทนาถึงกิจกรรมที่เด็กๆเล่าเรื่อง
ประโยชน์ที่ได้รับจากการทำกิจกรรม
1.เด็กได้รู้จักใช้จินตนาการและพัฒนาทักษะในด้านการคิดสร้างสรรค์
2.เด็กได้ทักษะการคิดแบบริเริ่ม คล่องตัว ยืดหยุ่น
3.เด็กสามารถในการเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ แม้จะเข้าใจในความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผล
การประเมินผล
ครูสังเกตและบันทึกเรื่องราวของเด็กระหว่างเด็กทำกิจกรรม
ปัญหาและอุปสรรค์ในการจัดกิจกรรม
1.รูปภาพในลูกเต๋าไม่น่าสนใจ
2.ความคงทนของลูกเต๋า
สิ่งที่ควรปรับปรุงในการจัดกิจกรรม
1.ทำให้รูปภาพให้น่าสนใจ
2. เพิ่มความคงทนของลูกเต๋า
สรุปผลการประเมินพัฒนาการจากการจัดกิจกรรม
1.เด็กได้รู้จักใช้จินตนาการและพัฒนาทักษะในด้านการคิดสร้างสรรค์
2.เด็กได้ทักษะการคิดแบบริเริ่ม คล่องตัว ยืดหยุ่น
3.เด็กสามารถในการเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ แม้จะเข้าใจในความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผล
3.เด็กสามารถในการเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ แม้จะเข้าใจในความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผล
ช่วงอายุ 4-5 ปี
วัตถุประสงค์
1. เพื่อส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และจินตนาการ
2. เพื่อส่งเสริมการแสดงออก และมีความมั่นใจในตนเอง
สื่อวัสดุ/อุปกรณ์
1. ฉาก
2. ภาพสัตว์นานาชนิด
ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรม
ขั้นนำ
1. ครูนำภาพสัตว์มาให้เด็กดู สนทนาร่วมกันถึงลักษณะของสัตว์แต่ละชนิด และสวนสัตว์ที่เด็กๆเคยพบเจอ
ขั้นสอน
1. ครูอธิบายและชี้แจงถึงขั้นตอนในการทำกิจกรรม
2. เด็กๆ ลงมือทำกิจกรรมร่วมกันอย่างอิสระ และครูคอยสังเกตการทำกิจกรรมของเด็ก
3. เมื่อเด็กๆทำกิจกรรมเสร็จแล้ว ช่วยกันเก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้าที่ให้เรียบร้อย
ขั้นสรุป
1. ครูและเด็กร่วมกันสนทนาถึงประโยชน์ของกิจกรรมที่ได้ร่วมกันทำ
ประโยชน์จากการจัดกิจกรรม
1. เพื่อส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และจินตนาการ
2. เพื่อส่งเสริมการแสดงออก และมีความมั่นใจในตนเอง
การวัดและประเมินผล
1. เด็กได้ฝึกทักษะทางความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และจินตนาการ
2. เด็กได้ฝึกทักษะการแสดงออก และมีความมั่นใจในตนเอง
ช่วงอายุ 5-6 ปี
วัตถุประสงค์
1. เพื่อส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และจินตนาการ
2. เพื่อส่งเสริมการแสดงออก และมีความมั่นใจในตนเอง
สื่อวัสดุ/อุปกรณ์
1. ฉาก
2. ภาพสัตว์นานาชนิด
ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรม
ขั้นนำ
1. ครูนำภาพสัตว์มาให้เด็กดู สนทนาร่วมกันถึงลักษณะของสัตว์แต่ละชนิดและสวนสัตว์
ที่เด็กเคยพบเจอ
ขั้นสอน
1. ครูอธิบายและชี้แจงถึงขั้นตอนในการทำกิจกรรม
2. เด็กๆ ลงมือทำกิจกรรมร่วมกันอย่างอิสระ และครูคอยสังเกตการทำกิจกรรมของเด็ก
3. ให้เด็กๆวาดภาพสวนสัตว์ที่ตนเองเคยพบเจอ
ขั้นสรุป
1. ครูและเด็กร่วมกันสนทนาถึงประโยชน์ของกิจกรรมที่ได้ร่วมกันทำ
ประโยชน์จากการจัดกิจกรรม
1. เพื่อส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และจินตนาการ
2. เพื่อส่งเสริมการแสดงออก และมีความมั่นใจ ในตนเอง
3. เพื่อส่งเสริมให้เกิดความสนุกสนาน เพลิดเพลิน ผ่อนคลายความเครียด
การวัดและประเมินผล
1. เด็กได้ฝึกทักษะทางความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และจินตนาการ
2. เด็กได้ฝึกทักษะการแสดงออก และมีความมั่นใจในตนเอง
ปัญหาและอุปสรรค์ในการจัดกิจกรรม
1. รูปภาพสัตว์ที่เตรียมมาจัดกิจกรรมมีจำนวนน้อยเกินไป
สิ่งที่ควรปรับปรุงในการจัดกิจกรรม
1. ควรเพิ่มจำนวนของรูปภาพสัตว์ให้เยอะขึ้น
1. ควรเพิ่มจำนวนของรูปภาพสัตว์ให้เยอะขึ้น
สรุปผลการประเมินพัฒนาการจากการจัดกิจกรรม
1. เด็กได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และเสริมสร้างจินตนาการ
2. เด็กได้สร้างความเชื่อมั่นในการแสดงออกที่จะทำผลงานร่วมกับผู้อื่น
3. เด็กมีความเพลิดเพลิน สนุกสนานในขณะทำกิจกรรมและชื่นชมในความสวยงามของผลงานที่
3. เด็กมีความเพลิดเพลิน สนุกสนานในขณะทำกิจกรรมและชื่นชมในความสวยงามของผลงานที่
ตนได้ลงมือทำ
กิจกรรมไหมพรมสร้างสรรค์
ช่วงอายุ 4-5 ปี
จุดประสงค์
1.เพื่อส่งเสริมทักษะการคิด การสังเกต และการแสดงความคิดออกมาอย่างสร้างสรรค์
2.เพื่อส่งเสริมทักษะการแสดงความรู้สึกผ่านผลงานของตนเองและผู้อื่น
3.เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้ฝึกทักษะการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก
4.เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้ฝึกทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น และปฏิบัติตามข้อตกลง
สาระที่ควรเรียนรู้
1.การใช้อุปกรณ์อย่างถูกวิธี
2.การระมัดระวังในการใช้อุปกรณ์
อุปกรณ์
1.กระดาน
2.ไหมพรมหลากสี
3.ตะกร้าไหมพรม
ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรม
ขั้นนำ
1.ครูนำไหมพรมหลากสีมาให้เด็กดู และสนทนาร่วมกันถึงประโยชน์ของไหมพรมสามารถสร้างสรรค์
ผลงานได้ อย่างไรบ้าง
2.ครูแบ่งกลุ่มเด็กออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ และร่วมกันสร้างข้อตกลงก่อนทำกิจกรรม
-การใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง ความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น
-การใช้อุปกรณ์และเก็บอุปกรณ์เมื่อทำกิจกรรมสำเร็จ
ขั้นสอน
3.ครูแนะนำอุปกรณ์กิจกรรมไหมพรมสร้างสรรค์ และวิธีการใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง
4.เด็กๆแต่ละกลุ่มช่วยกันเตรียมอุปกรณ์การทำกิจกรรมพรมไหมสร้างสรรค์
5.ครูกระตุ้นการคิดเด็กก่อนการทำกิจกรรม “หากเด็กๆมีไหมพรมเหลือเพียง 2 เส้น
เด็กๆนำช่วยกันสร้างสรรค์ไหมพรมเป็นอะไรได้บ้าง? ”
เด็กๆนำช่วยกันสร้างสรรค์ไหมพรมเป็นอะไรได้บ้าง? ”
6.เด็กสามารถสร้างสรรค์ผลงานจากไหมพรม 2 เส้นได้ ครูเพิ่มจำนวนไหมพรมหลากสีให้กับเด็กๆ
และให้เด็กๆสร้างสรรค์ผลงานจากไหมพรมหลากสี
และให้เด็กๆสร้างสรรค์ผลงานจากไหมพรมหลากสี
7.ครูให้เด็กๆระดมความคิดสร้างสรรค์ไหมพรมเป็นรูปร่างต่างๆตามจินตนาการ
8.เด็กช่วยกันสร้างสรรค์ผลงานจากไหมพรมหลากสีให้สำเร็จ และช่วยกันเก็บอุปกรณ์ให้เรียบร้อย
ขั้นสรุป
9.ครูและเด็กร่วมกันสนทนาถึงประโยชน์ของไหมพรม และการนำไหมพรมมาสร้างสรรค์เป็นผลงาน
10.ครูสนทนาร่วมกันกับเด็กจากแต่ละกลุ่มที่ได้ร่วมกัน สร้างสรรค์ผลงานจากไหมพรม 2 เส้น
11.เด็กร่วมกันนำเสนอผลงานที่ได้สร้างสรรค์ขึ้นจากไหมพรมหลากสี และชื่นชมผลงานของแต่ละกลุ่ม
ประโยชน์ที่ได้รับจากการทำกิจกรรม
1.เด็กได้ฝึกทักษะการคิดและการวางแผนในการทำงานร่วมกันผู้อื่น
2เด็กได้ร่วมกันการคิดสร้างสรรค์ผล และแก้ไขปัญหา
3.เด็กได้ฝึกทักษะการใช้จินตนาการและความสามารถของตนเอง
4.เด็กได้แสดงความรู้สึกนึกคิดออกมาในวิถีที่สร้างสรรค์
การประเมินผล
ครูประเมินพัฒนาการเด็กจากทำกิจกรรมไหมพรมสร้างสรรค์ โดยใช้เทคนิคการประเมินพัฒนาการ
เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน คือ การเขียนบันทึก ครูสังเกตขณะเด็กทำกิจกรรมและเขียนบันทึกเรื่องราวของ
เด็กระหว่างเด็กทำกิจกรรม
เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน คือ การเขียนบันทึก ครูสังเกตขณะเด็กทำกิจกรรมและเขียนบันทึกเรื่องราวของ
เด็กระหว่างเด็กทำกิจกรรม
ปัญหาและอุปสรรค์ในการจัดกิจกรรม
1.หมุดปักบนกระดาน มีจำนวนมากเกินไป ส่งผลให้เกิดข้อจำกัดในการโยงเส้นไหมพรม
2.ความยาวของไหมพรม มีความยาวสั้นเกินไป จึงส่งผลให้การโยงเส้นยากมากขึ้น
3.ขนาดของเส้นไหมพรมบางเกินไป ส่งผลให้เด็กจับโยงเส้นไหมพรมได้ยาก และใช้เวลานาน
สิ่งที่ควรปรับปรุงในการจัดกิจกรรม
1.แก้ไขการวางระยะห่างของหมุด และลดจำนวนหมุดให้น้อยลง
2.เพิ่มความยาวของไหมพรม
3.เปลี่ยนขนาด เส้นไหมพรมให้หนา เพื่อให้เด็กสามารถโยงเส้นไหมพรมได้ง่ายขึ้น
สรุปผลการประเมินพัฒนาการจากการจัดกิจกรรม
1.เด็กได้ฝึกทักษะการคิด การสังเกต และการแสดงความคิดออกมาอย่างสร้างสรรค์
2.เด็กได้ฝึกทักษะการแสดงความรู้สึกผ่านผลงานของตนเองและผู้อื่น
3.เด็กได้ฝึกทักษะการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก
4.เด็กได้ฝึกทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น และปฏิบัติตามข้อตกลง
ช่วงอายุ 5-6 ปี
จุดประสงค์
1.เพื่อส่งเสริมทักษะการคิด การสังเกต และการแสดงความคิดออกมาอย่างสร้างสรรค์
2.เพื่อส่งเสริมทักษะการแสดงความรู้สึกผ่านผลงานของตนเองและผู้อื่น
3.เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้ฝึกทักษะการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก
4.เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้ฝึกทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น และปฏิบัติตามข้อตกลง
สาระที่ควรเรียนรู้
1.การใช้อุปกรณ์อย่างถูกวิธี
2.การระมัดระวังในการใช้อุปกรณ์
อุปกรณ์
1.กระดาน
2.ไหมพรมหลากสี
3.ตะกร้าไหมพรม
ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรม
ขั้นนำ
1.ครูนำไหมพรมหลากสีมาให้เด็กดู และสนทนาร่วมกันถึงประโยชน์ของไหมพรม
สามารถสร้างสรรค์ผลงานได้ อย่างไรบ้าง
สามารถสร้างสรรค์ผลงานได้ อย่างไรบ้าง
2.ครูแบ่งกลุ่มเด็กออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ และร่วมกันสร้างข้อตกลงก่อนทำกิจกรรม
-การใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง ความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น
-การใช้อุปกรณ์และเก็บอุปกรณ์เมื่อทำกิจกรรมสำเร็จ
ขั้นสอน
3.ครูแนะนำอุปกรณ์กิจกรรมไหมพรมสร้างสรรค์ และวิธีการใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง
4.เด็กๆแต่ละกลุ่มช่วยกันเตรียมอุปกรณ์การทำกิจกรรมพรมไหมสร้างสรรค์
5.ครูกระตุ้นการคิดเด็กก่อนการทำกิจกรรม “หากเด็กๆมีไหมพรมเหลือเพียง 2 เส้น
เด็กๆนำช่วยกันสร้างสรรค์ไหมพรมเป็นอะไรได้บ้าง? ”
6.เด็กสามารถสร้างสรรค์ผลงานจากไหมพรม 2 เส้นได้ ครูเพิ่มจำนวนไหมพรมหลากสีให้กับเด็กๆ
และให้เด็กๆสร้างสรรค์ผลงานจากไหมพรมหลากสี
7.ครูให้เด็กๆระดมความคิดสร้างสรรค์ไหมพรมเป็นรูปร่างต่างๆตามจินตนาการ
8.เด็กช่วยกันสร้างสรรค์ผลงานจากไหมพรมหลากสีให้สำเร็จ และช่วยกันเก็บอุปกรณ์ให้เรียบร้อย
ขั้นสรุป
9.ครูและเด็กร่วมกันสนทนาถึงประโยชน์ของไหมพรม และการนำไหมพรมมาสร้างสรรค์เป็นผลงาน
10.ครูสนทนาร่วมกันกับเด็กจากแต่ละกลุ่มที่ได้ร่วมกัน สร้างสรรค์ผลงานจากไหมพรม 2 เส้น
11.เด็กร่วมกันนำเสนอผลงานที่ได้สร้างสรรค์ขึ้นจากไหมพรมหลากสี และชื่นชมผลงานของแต่ละกลุ่ม
ประโยชน์ที่ได้รับจากการทำกิจกรรม
1.เด็กได้ฝึกทักษะการคิดและการวางแผนในการทำงานร่วมกันผู้อื่น
2เด็กได้ร่วมกันการคิดสร้างสรรค์ผล และแก้ไขปัญหา
3.เด็กได้ฝึกทักษะการใช้จินตนาการและความสามารถของตนเอง
4.เด็กได้แสดงความรู้สึกนึกคิดออกมาในวิถีที่สร้างสรรค์
การประเมินผล
ครูประเมินพัฒนาการเด็กจากทำกิจกรรมไหมพรมสร้างสรรค์ โดยใช้เทคนิคการประเมิน
พัฒนาการ เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน คือ การเขียนบันทึก ครูสังเกตขณะเด็กทำกิจกรรมและเขียนบันทึก เรื่องราวของเด็กระหว่างเด็กทำกิจกรรม
พัฒนาการ เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน คือ การเขียนบันทึก ครูสังเกตขณะเด็กทำกิจกรรมและเขียนบันทึก เรื่องราวของเด็กระหว่างเด็กทำกิจกรรม
กิจกรรม หลอดสร้างสรรค์
ช่วงอายุ 4 – 5 ปี
จุดประสงค์
1. เพื่อส่งเสริมพัฒนาทักษะการคิดและเสริมสร้างจินตนาการของเด็กๆ
2. เพื่อให้เด็กๆ สามารถเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผลงานที่ตนเองทำตามความคิดและจินตนาการได้
3. เพื่อทำให้เด็กๆ มีความเพลิดเพลิน ชื่นชมในความสวยงาม สำนึกในคุณค่าของศิลปะ
อุปกรณ์
1. หลอดหลากสี
2. กาวลาเท็กซ์
3. เทปใส
4. กรรไกร
5. แผ่นรอง
ขั้นตอนการดำเนินการ
ขั้นนำ
1. ครูนำหลอดหลากสีมาให้เด็กดู และสนทนาร่วมกันถึงประโยชน์ของหลอดหลากสีสามารถ
สร้างสรรค์ผลงานได้ อย่างไรบ้าง
2. ครูแบ่งกลุ่มเด็กออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ และร่วมกันสร้างข้อตกลงก่อนทำกิจกรรม
- การใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง ความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น
- การใช้อุปกรณ์และเก็บอุปกรณ์เมื่อทำกิจกรรม
ขั้นสอน
3. ครูแนะนำอุปกรณ์กิจกรรมหลอดสร้างสรรค์ และวิธีการใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง
4. เด็กๆแต่ละกลุ่มช่วยกันเตรียมอุปกรณ์การทำกิจกรรมหลอดสร้างสรรค์
5. ครูกระตุ้นการคิดเด็กก่อนการทำกิจกรรมหลอดเพื่อสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะตามความคิด
สร้างสรรค์ของกลุ่ม จนได้ผลงานจากหลอด
6. ครูให้เด็กๆระดมความคิดสร้างสรรค์หลอดเป็นรูปร่างต่างๆตามจินตนาการ
7. เด็กช่วยกันสร้างสรรค์ผลงานจากหลอดหลากสีให้สำเร็จ และช่วยกันเก็บอุปกรณ์ให้เรียบร้อย
ขั้นสรุป
8. ครูและเด็กร่วมกันสนทนาถึงประโยชน์ของหลอด และการนำหลอดมาสร้างสรรค์เป็นผลงาน
9. ครูสนทนาร่วมกันกับเด็กจากแต่ละกลุ่มที่ได้ร่วมกัน สร้างสรรค์ผลงานจากหลอดหลากสี
10. เด็กร่วมกันนำเสนอผลงานที่ได้สร้างสรรค์ขึ้นจากหลอดหลากสีและชื่นชมผลงาน
ของแต่ละกลุ่มประโยชน์
1. เด็กได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และเสริมสร้างจินตนาการ
2. เด็กสามารถเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผลงานที่ตนเองทำตามความคิดและจินตนาการได้
3. เด็กมีความเพลิดเพลิน สนุกสนานในขณะทำกิจกรรมและชื่นชมในความสวยงามของผลงานที่ตน
ได้ลงมือทำ
ช่วงอายุ 5 – 6 ปี
จุดประสงค์
1. เพื่อส่งเสริมพัฒนาทักษะการคิดและเสริมสร้างจินตนาการของเด็ก ๆ
2. เพื่อให้เด็ก ๆ สามารถเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผลงานที่ตนเองทำตามความคิดและจินตนาการได้
3. เพื่อทำให้เด็ก ๆ มีความเพลิดเพลิน ชื่นชมในความสวยงาม สำนึกในคุณค่าของศิลปะ
อุปกรณ์
1. หลอดหลากสี หลอดเล็ก - ใหญ่
2. กาวลาเท็กซ์
3. เทปใส
4. กรรไกร
5. แผ่นรอง
ขั้นตอนการดำเนินการ
ขั้นนำ
1. ครูนำหลอดหลากสี และขนาดหลอดเล็ก ใหญ่ มาให้เด็กดู และสนทนาร่วมกันถึงประโยชน์ของ
หลอดสามารถสร้างสรรค์ผลงานได้ อย่างไรบ้าง
2. ครูแบ่งกลุ่มเด็กออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ และร่วมกันสร้างข้อตกลงก่อนทำกิจกรรม
- การใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง ความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น
- การใช้อุปกรณ์และเก็บอุปกรณ์เมื่อทำกิจกรรม
ขั้นสอน
3. ครูแนะนำอุปกรณ์กิจกรรมหลอดสร้างสรรค์ และวิธีการใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง
4. เด็กๆแต่ละกลุ่มช่วยกันเตรียมอุปกรณ์การทำกิจกรรมหลอดสร้างสรรค์
5. ครูกระตุ้นการคิดเด็กก่อนการทำกิจกรรมหลอดเพื่อสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะตามความคิด
สร้างสรรค์ของกลุ่ม จนได้ผลงานจากหลอด
6. ครูให้เด็กๆระดมความคิดสร้างสรรค์หลอดขนาดหลอดเล็ก ใหญ่ เป็นรูปร่างต่างๆตามจินตนาการ
7. เด็กช่วยกันสร้างสรรค์ผลงานจากหลอดหลากสีและหลอดขนาดเล็ก ใหญ่ให้สำเร็จ และช่วยกัน
เก็บอุปกรณ์ให้เรียบร้อย
ขั้นสรุป
8. ครูและเด็กร่วมกันสนทนาถึงประโยชน์ของหลอด และการนำหลอดขนาดเล็ก-ใหญ่
มาสร้างสรรค์เป็นผลงาน
9. ครูสนทนาร่วมกันกับเด็กจากแต่ละกลุ่มที่ได้ร่วมกัน สร้างสรรค์ผลงานจากหลอดหลากสี
10. เด็กร่วมกันนำเสนอผลงานที่ได้สร้างสรรค์ขึ้นจากหลอดขนาดเล็ก ใหญ่
และชื่นชมผลงานของแต่ละกลุ่ม
ประโยชน์
1. เด็กได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และเสริมสร้างจินตนาการ
2. เด็กสามารถเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผลงานที่ตนเองทำตามความคิดและจินตนาการได้
3. เด็กมีความเพลิดเพลิน สนุกสนานในขณะทำกิจกรรมและชื่นชมในความสวยงาม
ของผลงานที่ตนได้ลงมือทำ
การประเมินผล
ครูประเมินพัฒนาการเด็กจากทำกิจกรรมหลอดสร้างสรรค์ โดยใช้เทคนิคการประเมินพัฒนาการเครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน คือ การเขียนบันทึก ครูสังเกตขณะเด็กทำกิจกรรมและเขียนบันทึกเรื่องราวของเด็กระหว่างเด็กทำกิจกรรม
ปัญหาและอุปสรรค์ในการจัดกิจกรรม
1. เด็กบางคนจะใช้อุปกรณ์ยังไม่เป็น ส่งผลให้เด็กทำงานไม่ทันเพื่อน
2. อุปกรณ์บางอย่างไม่เหมาะสมที่จะนำมาให้เด็กได้ทำกิจกรรม
สิ่งที่ควรปรับปรุงในการจัดกิจกรรม
1. คอยสังเกตเวลาที่เด็กสงสัยถึงอุปกรณ์ อธิบายและบอกว่าสิ่งนั้นคืออะไร มีวิธีใช้อย่างไร
2. นำหลอดหลากสี และขนาดของหลอดที่เด็กๆ พบเห็นในชีวิตประจำวัน
3. ไม่นำอุปกรณ์ที่อาจจะเกิดอันตรายต่อเด็กๆ มาจัดกิจกรรม
สรุปผลการประเมินพัฒนาการจากการจัดกิจกรรม
1. เด็กได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และเสริมสร้างจินตนาการ
2. เด็กสามารถเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผลงานที่ตนเองทำตามความคิดและจินตนาการได้
3. เด็กมีความเพลิดเพลิน สนุกสนานในขณะทำกิจกรรมและชื่นชมในความสวยงามของผลงานที่ตนได้ลงมือทำ
กิจกรรม ซาลอน..สวยด้วยมือเรา
ช่วงอายุ 4 – 5 ปี
จุดประสงค์
1. เพื่อส่งเสริมพัฒนาทักษะการคิดและเสริมสร้างจินตนาการของเด็ก ๆ
2. เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการแสดงออกให้กับเด็ก ๆ
3. เพื่อให้เด็กๆ สามารถเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผลงานที่ตนเองทำตามความคิดและจินตนาการได้
4. เพื่อทำให้เด็กๆ มีความเพลิดเพลิน ชื่นชมในความสวยงาม สำนึกในคุณค่าของศิลปะ
อุปกรณ์
1. ผ้าตัดเป็นรูปทรงหน้า
2. อุปกรณ์แต่งหน้า เช่น ลิปสติก ที่ปัดแก้ม
3. สีไม้
4. ดินสอ / ยางลบ
5. พู่กัน
ขั้นตอนการดำเนินการ
ขั้นนำ
1. ครูพาเด็ก ๆ ร้องเพลงร่างกายของเรา พร้อมทำท่าประกอบ
2. ครูและเด็ก ๆ ร่วมกันสนทนาถึง รูปร่าง หน้าตา ว่าเป็นอย่างไร มีอะไรบ้าง เพื่อสร้างความสนใจ
และความพร้อมในการทำกิจกรรมในครั้งนี้โดยแบ่งเด็กออกเป็นกลุ่มๆ ละ 4 –5 คน และสร้างข้อตกลง
ในการปฏิบัติกิจกรรม
ขั้นสอน
3. ครูพาเด็ก ๆ ร้องเพลงร่างกายของเรา พร้อมทำท่าประกอบ
4. ครูและเด็ก ๆ ร่วมกันสนทนาถึง รูปร่าง หน้าตา ว่าเป็นอย่างไร มีอะไรบ้าง เพื่อสร้างความสนใจ
และความพร้อมในการทำกิจกรรมในครั้งนี้โดยแบ่งเด็กออกเป็นกลุ่มๆ ละ 4 –5 คน
และสร้างข้อตกลงในการปฏิบัติกิจกรรม
และความพร้อมในการทำกิจกรรมในครั้งนี้โดยแบ่งเด็กออกเป็นกลุ่มๆ ละ 4 –5 คน
และสร้างข้อตกลงในการปฏิบัติกิจกรรม
ขั้นสรุป
5. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปถึงประโยชน์ของกิจกรรมที่ได้ร่วมกันทำในวันนี้ นักเรียนได้รับความรู้อะไรบ้างจากการสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะที่ครูนำมาจัดให้ และส่งผลต่อตนเอง และต่อผู้อื่นอย่างไร
ประโยชน์
1. เด็กได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และเสริมสร้างจินตนาการ
2. เด็กได้สร้างความเชื่อมั่นในการแสดงออกที่จะทำผลงานร่วมกับผู้อื่น
3. เด็กสามารถเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผลงานที่ตนเองทำตามความคิดและจินตนาการได้
4. เด็กมีความเพลิดเพลิน สนุกสนานในขณะทำกิจกรรมและชื่นชมในความสวยงามของผลงาน
ที่ตนได้ลงมือทำ
ที่ตนได้ลงมือทำ
ช่วงอายุ 5 – 6ปี
จุดประสงค์
1. เพื่อส่งเสริมพัฒนาทักษะการคิดและเสริมสร้างจินตนาการของเด็ก ๆ
2. เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการแสดงออกให้กับเด็ก ๆ
3. เพื่อให้เด็ก ๆ สามารถเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผลงานที่ตนเองทำตามความคิดและจินตนาการได้
4. เพื่อทำให้เด็ก ๆ มีความเพลิดเพลิน ชื่นชมในความสวยงาม สำนึกในคุณค่าของศิลปะ
อุปกรณ์
1. ผ้าตัดเป็นรูปทรงหน้า
2. อุปกรณ์แต่งหน้า เช่น ลิปสติก ที่ปัดแก้ม
3. ไหมพรม
4. สีไม้
5. ดินสอ / ยางลบ
6. กาว
7. พู่กัน
ขั้นตอนการดำเนินการ
ขั้นนำ
1. ครูพาเด็กๆ ร้องเพลงร่างกายของเรา พร้อมทำท่าประกอบ
2. ครูและเด็กๆ ร่วมกันสนทนาถึง รูปร่าง หน้าตา ว่าเป็นอย่างไร มีอะไรบ้าง เพื่อสร้างความสนใจ
และความพร้อมในการทำกิจกรรมในครั้งนี้โดยแบ่งเด็กออกเป็นกลุ่มๆ ละ 4 –5 คน
และสร้างข้อตกลงในการปฏิบัติกิจกรรม
ขั้นสอน
และความพร้อมในการทำกิจกรรมในครั้งนี้โดยแบ่งเด็กออกเป็นกลุ่มๆ ละ 4 –5 คน
และสร้างข้อตกลงในการปฏิบัติกิจกรรม
ขั้นสอน
3. ครูนำวัสดุ – อุปกรณ์มาให้เด็กแต่ละกลุ่มและ ครูอธิบาย ชี้แจงถึงขั้นตอนในการทำกิจกรรม
4. เด็กๆ ลงมือปฏิบัติกิจกรรมอย่างอิสระ และครูคอยสังเกตการทำงานของเด็ก
5. เมื่อนเด็กๆ แต่ละคนทำกิจกรรมเสร็จแล้ว ช่วยกันจัดเก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้าที่ให้เรียบร้อย
และครูให้นักเรียนแต่ละนำเสนอผลงานของตัวเอง
และครูให้นักเรียนแต่ละนำเสนอผลงานของตัวเอง
ขั้นสรุป
6. ครูและเด็กๆ ร่วมกันสรุปถึงประโยชน์ของกิจกรรมที่ได้ร่วมกันทำในวันนี้นักเรียนได้รับความรู้อะไรบ้าง
จากการสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะที่ครูนำมาจัดให้ ส่งผลต่อตนเองและส่งผมต่อผู้อื่นอย่างไรบ้าง
ประโยชน์
จากการสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะที่ครูนำมาจัดให้ ส่งผลต่อตนเองและส่งผมต่อผู้อื่นอย่างไรบ้าง
ประโยชน์
1. เด็กได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และเสริมสร้างจินตนาการ
2. เด็กได้สร้างความเชื่อมั่นในการแสดงออกที่จะทำผลงานร่วมกับผู้อื่น
3. เด็กสามารถเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผลงานที่ตนเองทำตามความคิดและจินตนาการได้
4. เด็กมีความเพลิดเพลิน สนุกสนานในขณะทำกิจกรรมและชื่นชมในความสวยงาม
ของผลงานที่ตนได้ลงมือทำ
การประเมินผล
ครูประเมินพัฒนาการเด็กจากทำกิจกรรมซาลอน...สวยด้วยมือเรา โดยใช้เทคนิคการประเมินพัฒนาการ
เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน คือ การเขียนบันทึก ครูสังเกตขณะเด็กทำกิจกรรมและเขียนบันทึกเรื่องราว
ของเด็กระหว่างเด็กทำกิจกรรม
เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน คือ การเขียนบันทึก ครูสังเกตขณะเด็กทำกิจกรรมและเขียนบันทึกเรื่องราว
ของเด็กระหว่างเด็กทำกิจกรรม
ปัญหาและอุปสรรค์ในการจัดกิจกรรม
1. เด็กบางคนจะใช้อุปกรณ์ยังไม่เป็น ส่งผลให้เด็กทำงานไม่ทันเพื่อน
2. เครื่องสำอางบางอย่างเด็กไม่รู้จัก ทำให้เด็กมีความสับสนในการเลือกมาทำกิจกรรม
3. อปุกรณ์บางอย่างไม่เหมาะสมที่จะนำมาให้เด็กได้ทำกิจกรรม
สิ่งที่ควรปรับปรุงในการจัดกิจกรรม
1. คอยสังเกตเวลาที่เด็กสงสัยถึงอุปกรณ์ หรือ เครื่องสำอาดที่เด็กไม่รู้ แล้วอธิบายและบอกว่าสิ่งนั้นคืออะไร มีวิธีใช้อย่างไร
1. นำเครื่องสำอางที่เด็ก ๆ พบเห็นเป็นส่วนใหญ่ในชีวิตประจำวัน
2. ไม่นำอุปกรณ์ หรือ เครื่องสำอาดที่อาจจะเกิดอันตรายต่อเด็ก ๆ มาจัดกิจกรรม
สรุปผลการประเมินพัฒนาการจากการจัดกิจกรรม
1. เด็กได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และเสริมสร้างจินตนาการ
2. เด็กได้สร้างความเชื่อมั่นในการแสดงออกที่จะทำผลงานร่วมกับผู้อื่น
3. เด็กสามารถเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผลงานที่ตนเองทำตามความคิดและจินตนาการได้
4. เด็กมีความเพลิดเพลิน สนุกสนานในขณะทำกิจกรรมและชื่นชมในความสวยงามของผลงานที่
ตนได้ลงมือทำ
ตนได้ลงมือทำ
กิจกรรม เชฟ ซุปเปอร์จิ๋ว
ช่วงอายุ4-5 ปี
จุดประสงค์
1. เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดสร้างสรรค์อย่างอิสระ
2.เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้รู้จักใช้จินตนาการและความสามารถของตนเอง
3.เด็กสามารถแสดงความรู้สึกนึกคิดออกมาในวิถีที่สร้างสรรค์
4.เพื่อส่งเสริมการแสดงออกทางการติดและจินตนาการผ่านการทำอาหาร
5.เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการทำอาหาร
อุปกรณ์
1. ผักต่างๆ
2. ขนมปังแผ่นใหญ่
3. อุปกรณ์ทำอาหาร กระทะ ตะหลิว ช้อน ทัพพี จาน มีด
4. นมข้นหวาน
ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรมสำหรับเด็กอายุ4-5 ปี
ขั้นนำ
1.ครูนำผักต่างๆและอุปกรณ์ครัวให้เด็กดู และสนทนาร่วมกันถึงผักต่างๆและอุปกรณ์ครัวว่ามีอะไรบ้าง
2.ครูแบ่งกลุ่มเด็กออกเป็น 2 กลุ่ม และร่วมกันสร้างข้อตกลงก่อนทำกิจกรรม
- การใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง ความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น
- การใช้อุปกรณ์และเก็บอุปกรณ์เมื่อทำกิจกรรมสำเร็จ
ขั้นสอน
3.ครูแนะนำอุปกรณ์กิจกรรมเชฟ ซุปเปอร์จิ๋ว โดยการให้เด็กตกแต่งหน้าขนมปังแผ่นใหญ่
และวิธีการใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง
4.เด็กๆแต่ละกลุ่มช่วยกันเตรียมอุปกรณ์การทำกิจกรรม
5.ครูให้เด็กแต่ละกลุ่มช่วยกันทำกิจกรรม
๖. หลังจากเสร็จกิจกรรมช่วยกันเก็บอุปกรณ์
ขั้นสรุป
7.ครูและเด็กร่วมกันสนทนาถึงประโยชน์ของกิจกรรมเชฟ ซุปเปอร์จิ๋ว
ประโยชน์
1.เด็กได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และเสริมสร้างจินตนาการ
2 เด็กได้ผ่อนคลายอารมณ์และเกิดความสนุกสนานในขณะทำกิจกรรม
3.เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการทำอาหาร
การประเมินผล
1.เด็กได้ฝึกทักษะกล้ามเนื้อมือ
2.เด็กได้ส่งเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์ได้ใช้จินตนาการ
3.เด็กได้ฝึกทักษะการยอมรับความคิดเห็น และปฏิบัติตามข้อตกลง
ช่วงอายุ5-6 ปี
จุดประสงค์
1. เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดสร้างสรรค์อย่างอิสระ
2.เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้รู้จักใช้จินตนาการและความสามารถของตนเอง
3.เด็กสามารถแสดงความรู้สึกนึกคิดออกมาในวิถีที่สร้างสรรค์
4.เพื่อส่งเสริมการแสดงออกทางการติดและจินตนาการผ่านการทำอาหาร
5.เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการทำอาหาร
อุปกรณ์
5. ผักต่างๆ
6. ขนมปังแผ่นใหญ่
7. อุปกรณ์ทำอาหาร กระทะ ตะหลิว ช้อน ทัพพี จาน มีด
8. นมข้นหวาน
ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรมสำหรับเด็กอายุ5-6 ปี
ขั้นนำ
1.ครูนำผักต่างๆและอุปกรณ์ครัวให้เด็กดู และสนทนาร่วมกันถึงผักต่างๆและอุปกรณ์ครัวว่ามีอะไรบ้าง
2.ครูแบ่งกลุ่มเด็กออกเป็น 2 กลุ่ม และร่วมกันสร้างข้อตกลงก่อนทำกิจกรรม
- การใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง ความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น
- การใช้อุปกรณ์และเก็บอุปกรณ์เมื่อทำกิจกรรมสำเร็จ
ขั้นสอน
3.ครูแนะนำอุปกรณ์กิจกรรมเชฟ ซุปเปอร์จิ๋ว โดยการให้เด็กตกแต่งหน้าขนมปังแผ่นเล็ก
และวิธีการใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง
และวิธีการใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง
4.เด็กๆแต่ละกลุ่มช่วยกันเตรียมอุปกรณ์การทำกิจกรรม
5.ครูให้เด็กแต่ละกลุ่มช่วยกันทำกิจกรรม
๖.หลังจากเสร็จกิจกรรมช่วยกันเก็บอุปกรณ์
ขั้นสรุป
7.ครูและเด็กร่วมกันสนทนาถึงประโยชน์ของกิจกรรมเชฟ ซุปเปอร์จิ๋ว
ประโยชน์
1.เด็กได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และเสริมสร้างจินตนาการ
2 เด็กได้ผ่อนคลายอารมณ์และเกิดความสนุกสนานในขณะทำกิจกรรม
3.เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการทำอาหาร
การประเมินผล
1.เด็กได้ฝึกทักษะกล้ามเนื้อมือ
2.เด็กได้ส่งเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์ได้ใช้จินตนาการ
3.เด็กได้ฝึกทักษะการยอมรับความคิดเห็น และปฏิบัติตามข้อตกลง
ปัญหาและอุปสรรคในการจัดกิจกรรม
1.เตรียมวัสดุมาไม่เพียงพอ เช่น ขนมปัง เป็นต้น
สิ่งที่ควรปรับปรุงในการจัดกิจกรรม
2.ควรเตรียมขนมปังมาให้เพียงพอสำหรับการจัดกิจกรรม
สรุปผลการประเมินพัฒนาการจากการจัดกิจกรรม
1.เด็กได้ฝึกทักษะการคิด การสังเกต และการแสดงความคิดออกมาอย่างสร้างสรรค์
2.เด็กได้ฝึกทักษะการแสดงความรู้สึกผ่านผลงานของตนเองและผู้อื่น
3.เด็กได้ฝึกทักษะการใช้กล้ามเนื้อมือ
4.เด็กได้ฝึกทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น และปฏิบัติตามข้อตกลง
กิจกรรม สร้างภาพด้วยนิ้วมือ
ช่วงอายุ 4 – 5 ปี
จุดประสงค์
1. เด็กสามารถใช้ปลายนิ้วมือข้อปลายสุดจุ่มสีน้ำแล้วกดลงบนผ้าได้
2. เด็กสามารถบอกหรือเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผลงานที่ตนเองทำได้
3. เด็กสามารถทำกิจกรรมได้อย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน
สาระที่ควรเรียนรู้
1.การใช้อุปกรณ์อย่างถูกวิธี
2.การแบ่งปัน
อุปกรณ์
1.ผ้า
2.สีจากธรรมชาติ
3.ภาชนะใส่สี
4.ผ้าชุดน้ำไว้สำหรับเช็ดมือเวลาเปลี่ยนสี
ขั้นดำเนินกิจกรรม
ขั้นนำ
1.ครูนำดอกไม้ที่มีสีมาให้เด็กดู สนทนาร่วมกันถึงลักษณะดอกไม้แต่ละชนิดที่ครูนำมา
และสนทนาเกี่ยวกับดอกไม้ที่เด็กๆ เคยพบเจอ
และสนทนาเกี่ยวกับดอกไม้ที่เด็กๆ เคยพบเจอ
ขั้นสอน
1. ใช้นิ้วมือข้อปลายสุดจุ่มสีน้ำแล้วแตะลงบนสี
2. นำนิ้วมือที่จุ่มสีน้ำกดลงบนผ้าที่เตรียมไว้
ขั้นสรุป
ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปถึงประโยชน์ของดอกไม้แต่ละชนิดที่นำมาทำกิจกรรมในวันนี้
นักเรียนได้รับความรู้อะไรบ้าง จากการสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะที่ครูนำมาจัดให้
และได้ความรู้อย่างไรบ้าง
นักเรียนได้รับความรู้อะไรบ้าง จากการสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะที่ครูนำมาจัดให้
และได้ความรู้อย่างไรบ้าง
ช่วงอายุ 5 – 6ปี
จุดประสงค์
1. เด็กสามารถใช้ปลายนิ้วมือข้อปลายสุดจุ่มสีน้ำแล้วกดลงบนผ้าได้
2. เด็กสามารถบอกหรือเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผลงานที่ตนเองทำได้
3. เด็กสามารถทำกิจกรรมได้อย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน
อุปกรณ์
1.ผ้า
2.สีจากธรรมชาติ
3.ภาชนะใส่สี
4.ผ้าชุดน้ำไว้สำหรับเช็ดมือเวลาเปลี่ยนสี
5.ดินสอ/สี
ขั้นดำเนินกิจกรรม
ขั้นนำ
1.ครูนำดอกไม้ที่มีสีมาให้เด็กดู สนทนาร่วมกันถึงลักษณะดอกไม้แต่ละชนิดที่ครูนำมา
และสนทนาเกี่ยวกับดอกไม้ที่เด็กๆ เคยพบเจอ
และสนทนาเกี่ยวกับดอกไม้ที่เด็กๆ เคยพบเจอ
ขั้นสอน
1. ใช้นิ้วมือข้อปลายสุดจุ่มสีน้ำแล้วแตะลงบนสี
2. นำนิ้วมือที่จุ่มสีน้ำกดลงบนผ้าที่เตรียมไว้
3. ใช้ดินสอสีวาดต่อเติมเป็นภาพต่าง ๆ ตามความคิดของเด็กแต่ละคน
4.ให้เด็กๆออกมาเล่าเรื่องราวที่เด็กวาด
ขั้นสรุป
ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปถึงประโยชน์ของดอกไม้แต่ละชนิดที่นำมาทำกิจกรรมในวันนี้
นักเรียนได้รับความรู้อะไรบ้าง จากการสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะที่ครูนำมาจัดให้และได้ความรู้อย่างไร
ประโยชน์ที่ได้รับจากการทำกิจกรรม
1.เพื่อส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และจินตนาการ
2.เด็กสามารถเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผลงานที่ตนเองทำตามความคิดและจินตนาการได้
3.นักเรียนมีความเพลิดเพลิน สนุกสนานในขณะทำกิจกรรมและ ชื่นชมในความสวยงาม
ของผลงานที่ตนได้ลงมือทำ
ของผลงานที่ตนได้ลงมือทำ
การประเมินผล
1. นักเรียนได้ฝึกทักษะการคิด และการแก้ไขปัญหา
2. ได้ส่งเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์
3. นักเรียนได้ใช้จินตนาแสดงผ่านผลงานได้อย่างสร้างสรรค์
ปัญหาและอุปสรรค์ในการจัดกิจกรรม
1.เด็กบางคนไม่กล้าใช้นิ้วจุ่มสี
2.สีธรรมชาติที่นำมาใช้ไม่ค่อยติผ้า
สิ่งที่ควรปรับปรุงในการจัดกิจกรรม
1.ควรใช้กระดาษแทนผ้า
2.จัดตกแต่งกิจกรรมให้มีสีสันให้น่าเล่นมากขึ้น
สรุปผลการประเมินพัฒนาการจากการจัดกิจกรรม
1. เด็กได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และเสริมสร้างจินตนาการ
2. เด็กได้สร้างความเชื่อมั่นในการแสดงออกที่จะทำผลงานร่วมกับผู้อื่น
3. เด็กสามารถเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผลงานที่ตนเองทำตามความคิดและจินตนาการได้
4. เด็กมีความเพลิดเพลิน สนุกสนานในขณะทำกิจกรรมและชื่นชมในความสวยงาม
ของผลงานที่ตนได้ลงมือทำ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น