กลุ่มที่ 3
พัฒนาการและการเรียนรู้ทางสังคม
พัฒนาการทางสังคม หมายถึง การพัฒนาความสามารถในการแสดงพฤติกรรมให้สอดคล้องกับแบบแผนที่สังคมยอมรับ เพื่อดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างเป็นปกติสุข ซึ่งเด็กอายุ 3-6 ปีจะเป็นช่วงวัยที่สนใจเรียนรู้สังคมภายนอกบ้านมากขึ้น เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับการสร้างสัมพันธภาพกับบุคคลอื่นที่อยู่รอบตัว พัฒนาการด้านสังคมของเด็กวัยนี้จึงเป็นพื้นฐานการสร้างบุคลิกภาพที่เหมาะสมของเขาในอนาคต
ทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคม (Social Learning Theory) ของแบนดูรา
อัลเบิร์ต แบนดูรา กล่าวว่า การเรียนรู้ของมนุษย์นั้นเกิดจากพฤติกรรมบุคคลนั้นมีการปฏิสัมพันธ์ (Interaction) อย่างต่อเนื่องระหว่างบุคคลนั้น (Person) และสิ่งแวดล้อม (Environment) ซึ่งทฤษฎีนี้เน้นบุคคลเกิดการเรียนรู้โดยการให้ตัวแบบ (Learning Through Modeling) โดยผู้เรียนจะเลียนแบบจากตัวแบบ และการเลียนแบบนี้เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยการสังเกตพฤติกรรมของตัวแบบ การสังเกตการณ์ตอบสนองและปฏิกิริยาต่าง ๆ ของตัวแบบ สภาพแวดล้อมของตัวแบบ ผลการกระทำ คำบอกเล่า และความน่าเชื่อถือของตัวแบบได้ การเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยจึงเกิดขึ้นได้ ซึ่งกระบวนการต่าง ๆ ของการเลียนแบบของเด็ก ประกอบด้วย 4 กระบวนการ
1. กระบวนการดึงดูดความสนใจ (Attentional Process) กิจกรรมการเรียนรู้ที่เด็กได้สังเกตตัวแบบ และตัวแบบนั้นดึงดูดให้เด็กสนใจที่จะเลียนแบบ ควรเป็นพฤติกรรมง่าย ๆ ไม่สลับซับซ้อน ง่ายต่อการเอาใจใส่ของเด็กที่เกิดการเลียนแบบและเกิดการเรียนรู้
2. กระบวนการคงไว้ (Retention Process) คือ กระบวนการบันทึกรหัสเป็นความจำ การที่เด็กจะต้องมีความแม่นยำในการบันทึกสิ่งที่ได้เห็นหรือได้ยินเก็บเป็นความจำ ทั้งนี้ เด็กดึงข้อมูลที่ได้จากตัวแบบออกมาใช้กระทำตามโอกาสที่เหมาะสม
3. การะบวนการแสดงออก (Motor Reproduction Process) คือ การแสดงผลการเรียนรู้ด้วยการกระทำ คือ การที่เด็กเกิดผลสำเร็จในการเรียนรู้จากตัวแบบต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความแม่นยำ เด็กจะต้องแสดงพฤติกรรมได้จากการเรียนรู้ด้วยการเคลื่อนไหวออกมา เป็นการกระทำออกมาในรูปของการใช้กล้ามเนื้อความรู้สึกด้วยการกระทำครั้งแรกไม่สมบูรณ์ มากกว่าจะมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและสามารถควบคุมได้ดีกว่าเด็กที่มีอายุน้อยกว่า
4. กระบวนการจูงใจ (Motivational Process) คือ กระบวนการเสริมแรงให้กับเด็กเพื่อแสดงพฤติกรรมตามตัวแบบได้ถูกต้อง โดยเด็กเกิดการเรียนรู้จากการเรียนรู้จากการเลียนแบบตัวแบบที่จะมาจากบุคคลที่มีชื่อเสียงมากกว่าบุคคลที่ไม่มีชื่อเสียง จากการเลียนแบบตัวแบบที่มาจากบุคคลที่เป็นเพศเดียวกับเด็กมากกว่าจะเป็นเพศตรงข้าม
แนวคิดของแบนดูรา เน้นพฤติกรรมใด ๆ ก็ตามสามารถปรับหรือเปลี่ยนได้ตามหลักการเรียนรู้ เป็นการกระตุ้นเด็ก มีการเรียนรู้พัฒนาการทางด้านสังคม โดยใช้การสังเกตตัวแบบที่เด็กเห็น เด็กมีระดับการเรียนรู้แล้ว เด็กจะมีทางเลือกใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อเก็บสะสมพฤติกรรมที่เป็นไปได้เอาไว้ และยิ่งกว่านั้นตัวแปรจะช่วยให้เขาเลือกสถานการณ์ที่ดีที่สุดไว้ใช้ปฏิบัติต่อไป
ลักษณะพัฒนาการด้านสังคมของเด็กปฐมวัยมีดังนี้
1.พัฒนาการทางสังคมของเด็กวัยแรกเกิดถึง 1 ปี
ด้านสังคม เด็กจะเริ่มหันหน้าเมื่อมีคนเรียกชื่อ ยิ้มให้คนอื่น เลียนแบบกิริยา ท่าทางของคน แสดงออกถึงการรับรู้ อารมณ์และความรู้สึกของผู้อื่น ติดแม่ เข้าใจท่าทางและสีหน้าของคนอื่น กลัวคนแปลกหน้า บอกความต้องการได้ แยกตัวเองและเงาในกระจกได้ เข้าใจท่าทางและสีหน้า สนใจการกระทำของผู้อื่น ชอบเล่นคนเดียว หวงของ ชอบมีส่วนร่วม บอกสิ่งที่ต้องการด้วยคำพูดง่ายๆ รู้จักขอ
2.พัฒนาการทางสังคมของเด็กวัย 2 ปี
ด้านสังคมเล่นร่วมกับผู้อื่น แต่ยังคงต่างคนต่างเล่นอยู่ เริ่มที่จะเล่นเป็นกลุ่มกับเด็กอื่นให้ความสนใจตนเองหรือยึดตนเองเป็นศูนย์กลาง ไม่ยอมแบ่งปันสิ่งของหรือของเล่นให้กับเด็กวัยเดียวกัน ช่วยเหลือตัวเองในเรื่องการเข้าห้องน้ำและแต่งตัวเองได้
3.พัฒนาการทางสังคมของเด็กวัย 3 ปี
ด้านสังคม การสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นยังไม่แน่นอนแล้วแต่อารมณ์ของเด็ก เด็กวัยนี้เป็นวัยที่ชอบเล่นคนเดียว หรือเล่นสมมุติมากกว่าจะเล่นกับคนอื่น ชอบเล่นแบบคู่ขนาน คือ เล่นของเล่นชนิดเดียวกันแต่ต่างคนต่างเล่น ขณะที่เล่นชอบออกคำสั่ง ทำหรือพูดเหมือนกับสิ่งนั้นมีชีวิต รู้จักการรอคอย เริ่มปฏิบัติตามกฎ กติกาง่ายๆ รู้จักทำงานที่ได้รับมอบหมาย เริ่มรู้ว่าสิ่งใดเป็นของคนอื่น
4.พัฒนาการทางสังคมของเด็กวัย 4 ปี
ด้านสังคม เริ่มเล่นร่วมกับผู้อื่นได้ แต่มักจะเป็นเพศเดียวกันกับตนมากกว่า มักโกรธกันแต่ไม่นานเด็กก็จะกลับมาเล่นกันอีก รู้จักการให้อภัย การขอโทษ มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย รู้จักเก็บของเล่น มีมารยาทในการอยู่ร่วมกัน
5.พัฒนาการทางสังคมของเด็กวัยระหว่าง 5-6 ปี
ด้านสังคม เล่นกับเพื่อนโดยไม่เลือกเพศและสามารถฝึกกติกาง่ายๆในการเล่นได้ สามารถปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ เล่นหรือทำงานโดยมีจุดหมายเดียวกัน รู้จักไหว้ทำความเคารพเมื่อพบผู้ใหญ่
สรุปพัฒนาการทางสังคมคือ พัฒนาการที่เกี่ยวข้องกับเด็กเช่นการเล่นและการทำงานร่วมกับผู้อื่น รู้จักการแบ่งปัน การรอคอย และปฏิบัติตามกฎระเบียบของสังคมที่เด็กได้อยู่อาศัย
กิจกรรมที่ 1
กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ด้วยเศษใบไม้
วัตถุประสงค์
เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมในด้านช่วยเหลือ การแบ่งปันการช่วยเหลือความรับผิดชอบ เนื้อหา กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เป็นกลุ่มโดยการ สร้างสรรค์ศิลปะ ฉีก ตัด แปะ ด้วยเศษใบไม้
วัสดุ/อุปกรณ์
1. เพลง “ สวัสดี”
2. กระดาษ A4
2. กระดาษ A4
3. กรรไกรสำหรับเด็ก
4. เศษใบไม้ต่างๆ
4. เศษใบไม้ต่างๆ
5. กาว
วิธีดำเนินกิจกรรมเด็กอายุ 4-5 ปี
ขั้นนำ
1. ครูเตรียมความพร้อมให้กับเด็กด้วยเพลง “สวัสดี” พร้อมทำท่าทางประกอบแล้วสนทนาชักถาม เกี่ยวกับเนื้อเพลง
2. ครูแนะนำกิจกรรมการทำกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ด้วยเศษใบไม้โดยให้นักเรียนร่วมกันสร้างผลงานร่วมกันเป็นกลุ่ม กลุ่มล่ะ 7-8 คน โดยแต่ละกลุ่มจะต้องสร้างสรรค์ผลงานออกมากลุ่มละ 1 ชิ้น โดยครูจะนำเศษใบไม้ที่ยังไม่ตัดและตัดเป็นรูปทรงต่างๆ เตรียมไว้ให้นักเรียนเพื่อให้นักเรียนนำมา ฉีก ปะ ติด สร้างภาพร่วมกันตามจินตนาการ
3. อธิบายข้อตกลงเบื้องต้นเกี่ยวกับการปฏิบัติกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ด้วยเศษใบไม้
3.1 ร่วมกันวางแผน แบ่งหน้าที่ และแสดงความคิดเห็นกับเพื่อนเกี่ยวเรื่องที่จะทำร่วมกัน
3.2 ให้นักเรียนปรึกษากันได้ในขั้นตอนการทำงาน
ขั้นสอน
1. ครูให้นักเรียนนั่งตามกลุ่มที่ตนเองเลือก 7-8 คน เพื่อวางแผนในการทำกิจกรรม
2. นักเรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรมตามที่วางแผนไว้และตามความสนใจในสมาชิกของกลุ่ม ขณะที่นักเรียนทำกิจกรรมครูมีบทบาทกระตุ้นให้นักเรียนสนใจในกิจกรรมละให้แรงเสริมทางบวก ขณะที่นักเรียนทำงานเพื่อส่งเสริมพฤติกรรมการช่วยเหลือ การแบ่งปัน และการร่วมมือ
3. เมื่อปฏิบัติกิจกรรมเสร็จแล้วให้เด็กแต่ละกลุ่มเก็บอุปกรณ์เข้าที่ และทำความสะอาดให้เรียบร้อย
ขั้นสรุป
1. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานของกลุ่ม โดยครูกระตุ้นด้วยการใช้คำถาม
2. สนทนาและซักถามถึงการทำงานว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง มีปัญหาอะไรบ้าง ช่วยกันแก้ไขปัญหาอย่างไรมีการแบ่งปันอย่างไร ผลงานที่ทำสำเสร็จได้เพราะอะไร การร่วมมือกันทำงานมีผลดีกับนักเรียนอย่างไร
3. นักเรียนและครูร่วมสรุป ทบทวน ถึงประโยชน์ที่ได้รับจาการช่วยกันทำกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เป็นกลุ่ม
แบบประเมิน
อายุ 4-5 ปี ประเมินโดยการการสังเกต และการสัมภาษณ์ในขณะเด็กปฏิบัติกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์จากเศษใบไม้
วิธีดำเนินกิจกรรมเด็กอายุ 5-6 ปี
ขั้นนำ
1. ครูเตรียมความพร้อมให้กับเด็กด้วยเพลง “สวัสดี” พร้อมทำท่าทางประกอบแล้วสนทนาชักถาม เกี่ยวกับเนื้อเพลง
2. ครูแนะนำกิจกรรมการทำกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ด้วยเศษใบไม้โดยให้นักเรียนร่วมกันสร้างผลงานร่วมกันเป็นกลุ่ม กลุ่มล่ะ 7-8 คน โดยแต่ละกลุ่มจะต้องสร้างสรรค์ผลงานออกมากลุ่มละ 1 ชิ้น โดยครูจะให้นักเรียนช่วยกันนำเศษใบไม้มา ฉีก ตัด ปะ สร้างภาพร่วมกันตามจินตนาการ
3. อธิบายข้อตกลงเบื้องต้นเกี่ยวกับการปฏิบัติกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์
ด้วยเศษใบไม้
3.1 ร่วมกันวางแผน แบ่งหน้าที่ และแสดงความคิดเห็นกับเพื่อนเกี่ยวเรื่องที่จะทำร่วมกัน
3.2 ให้นักเรียนปรึกษากันได้ในขั้นตอนการทำงาน
ขั้นสอน
1. ครูให้นักเรียนนั่งตามกลุ่มที่ตนเองเลือก 7-8 คน เพื่อวางแผนในการทำกิจกรรม
2. นักเรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรมตามที่วางแผนไว้และตามความสนใจในสมาชิกของกลุ่ม ขณะที่นักเรียนทำกิจกรรมครูมีบทบาทกระตุ้นให้นักเรียนสนใจในกิจกรรมละให้แรงเสริมทางบวก ขณะที่นักเรียนทำงานเพื่อส่งเสริมพฤติกรรมการช่วยเหลือ การแบ่งปัน และการร่วมมือ
3. เมื่อปฏิบัติกิจกรรมเสร็จแล้วให้เด็กแต่ละกลุ่มเก็บอุปกรณ์เข้าที่ และทำความสะอาดให้เรียบร้อย
ขั้นสรุป
1. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานของกลุ่ม โดยครูกระตุ้นด้วยการใช้คำถาม
2. สนทนาและซักถามถึงการทำงานว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง มีปัญหาอะไรบ้าง ช่วยกันแก้ไขปัญหาอย่างไรมีการแบ่งปันอย่างไร ผลงานที่ทำสำเสร็จได้เพราะอะไร การร่วมมือกันทำงานมีผลดีกับนักเรียนอย่างไร
3. นักเรียนและครูร่วมสรุป ทบทวน ถึงประโยชน์ที่ได้รับจาการช่วยกันทำกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เป็นกลุ่ม
การประเมินผล
อายุ 5-6 ปี สังเกตพฤติกรรมทางสังคมของนักเรียน ในขั้นดำเนินกิจกรรม โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมทางสังคม
ประโยชน์ที่ได้รับจากการทำกิจกรรม
1. นักเรียนได้กระบวนการทำงานเป็นกลุ่มและได้พัฒนาทักษะด้านภาษาในการสร้างเรื่องราวของผลงานเป็นกลุ่ม
2. นักเรียนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากเพื่อนในกลุ่ม และการยอมรับความคิดเห็นของเพื่อนในกลุ่ม
3. นักเรียนได้มีความรับผิดชอบในการทำกิจกรรมที่ได้รับมอบหมาย
กิจกรรมที่ 2
กิจกรรมการทำศิลปะเป็นกลุ่ม
วัตถุประสงค์
เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมความร่วมมือ ในด้านการร่วมมือ การช่วยเหลือ ความรับผิดชอบ เนื้อหา กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เป็นกลุ่ม โดยการวาดภาพระบายสีเทียน พิมพ์ภาพด้วยนิ้วมือ ฉีกปะกระดาษสี ที่เน้นพฤติกรรมความร่วมมือโดยที่เด็กแต่ละกลุ่มร่วมมือกันวางแผนและทํางาน ร่วมกันในการสร้างสรรค์ผลงานของกลุ่ม
วัสดุ/อุปกรณ์
1. สำสี
2. กระดาษเอสาม3. สีเทียน 4. สีน้ำ 5. ฟองน้ำ 6. กระดาษสี7. กาว 8. กรรไกร 9. พู่กัน 10. จานใส่สี
2. กระดาษเอสาม3. สีเทียน 4. สีน้ำ 5. ฟองน้ำ 6. กระดาษสี7. กาว 8. กรรไกร 9. พู่กัน 10. จานใส่สี
ขั้นการดําเนินกิจกรรมเด็กอายุ 4-5 ปี
ขั้นนำ
1. เด็กและครูร่วมกันร้องเพลง “เพลงชวนเพื่อน” พร้อมทําท่าประกอบ แล้วสนทนาซักถาม เกี่ยวกับเนื้อเพลง
2. แนะนําการทํากิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เป็นกลุ่ม โต๊ะที่ 1 กิจกรรมเส้นสีสร้างสรรค์ โดยครูจะมีภาพมาให้ แล้วให้เด็กช่วยกันระบายสีด้วยสีเทียน โต๊ะที่ 2 กิจกรรมฟิงเกอร์เพ้นท์ ครูให้เด็กพิมพ์ภาพด้วยนิ้วมือหรือฟองน้ำ โต๊ะที่ 3 กิจกรรมต่อเสริมเติมสวย ครูจะตัดกระดาษสีเป็นรูปทรงต่างๆ และมีสำลีให้ จากนั้นให้เด็กนำกระดาษมาปะ ติด เป็นรูปต่างๆ
3. อธิบายข้อตกลงเบื้องต้นเกี่ยวกับการปฏิบัติกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เป็นกลุ่ม 3.1 ร่วมกันวางแผนและแสดงความคิดเห็นกับเพื่อนเกี่ยวกับเรื่องที่จะทําร่วมกัน 3.2 ให้เด็กปรึกษากันได้ในขั้นของการทํางาน 3.3 เด็กทํางานร่วมกันจนกว่าจะเสร็จและหมดเวลาของกิจกรรมในแต่ละครั้ง โดยให้เด็กแต่ละกลุ่มเลือกทํากิจกรรมด้วยตนเอง แต่ต้องไม่ซ้ำกับกลุ่มอื่น และเด็กแต่ละกลุ่มจะทํางานร่วมกันเพื่อที่จะให้ได้เป็นผลงานของกลุ่ม
2. แนะนําการทํากิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เป็นกลุ่ม โต๊ะที่ 1 กิจกรรมเส้นสีสร้างสรรค์ โดยครูจะมีภาพมาให้ แล้วให้เด็กช่วยกันระบายสีด้วยสีเทียน โต๊ะที่ 2 กิจกรรมฟิงเกอร์เพ้นท์ ครูให้เด็กพิมพ์ภาพด้วยนิ้วมือหรือฟองน้ำ โต๊ะที่ 3 กิจกรรมต่อเสริมเติมสวย ครูจะตัดกระดาษสีเป็นรูปทรงต่างๆ และมีสำลีให้ จากนั้นให้เด็กนำกระดาษมาปะ ติด เป็นรูปต่างๆ
3. อธิบายข้อตกลงเบื้องต้นเกี่ยวกับการปฏิบัติกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เป็นกลุ่ม 3.1 ร่วมกันวางแผนและแสดงความคิดเห็นกับเพื่อนเกี่ยวกับเรื่องที่จะทําร่วมกัน 3.2 ให้เด็กปรึกษากันได้ในขั้นของการทํางาน 3.3 เด็กทํางานร่วมกันจนกว่าจะเสร็จและหมดเวลาของกิจกรรมในแต่ละครั้ง โดยให้เด็กแต่ละกลุ่มเลือกทํากิจกรรมด้วยตนเอง แต่ต้องไม่ซ้ำกับกลุ่มอื่น และเด็กแต่ละกลุ่มจะทํางานร่วมกันเพื่อที่จะให้ได้เป็นผลงานของกลุ่ม
ขั้นการดำเนินการ
1. ให้เด็กนั่งตามกลุ่มกิจกรรมที่ตนเองเลือก กลุ่มละ 5 คน เพื่อร่วมกันทําการวางแผน ในการทํากิจกรรม กระตุ้นให้เด็กสนใจในกิจกรรม และให้แรงเสริมทางบวกขณะที่เด็กทํางาน เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมความร่วมมือ การช่วยเหลือ และความรับผิดชอบ
1. ให้เด็กนั่งตามกลุ่มกิจกรรมที่ตนเองเลือก กลุ่มละ 5 คน เพื่อร่วมกันทําการวางแผน ในการทํากิจกรรม กระตุ้นให้เด็กสนใจในกิจกรรม และให้แรงเสริมทางบวกขณะที่เด็กทํางาน เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมความร่วมมือ การช่วยเหลือ และความรับผิดชอบ
2. ขั้นทํากิจกรรมร่วมกัน เด็กลงมือปฏิบัติกิจกรรมตามที่ได้วางแผนไว้ในรูปแบบต่างๆ ที่ตรงตามความสนใจของสมาชิกในกลุ่ม
3. เมื่อปฏิบัติกิจกรรมเสร็จสิ้นแล้ว ให้แต่ละกลุ่มเก็บอุปกรณ์เข้าที่ และทําความสะอาดโต๊ะ กิจกรรมให้เรียบร้อย
3. เมื่อปฏิบัติกิจกรรมเสร็จสิ้นแล้ว ให้แต่ละกลุ่มเก็บอุปกรณ์เข้าที่ และทําความสะอาดโต๊ะ กิจกรรมให้เรียบร้อย
ขั้นสรุป
1. ให้เด็กแต่ละกลุ่มได้ออกมานําเสนอผลงานของกลุ่ม โดยครูกระตุ้นด้วยการใช้คําถาม 2. สนทนาและซักถามถึงการทํางานว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง มีปัญหาอะไรบ้าง ช่วยกันแก้ไข ปัญหาอย่างไร ผลงานที่ทําสําเร็จได้เพราะอะไร การร่วมมือกันทํางานมีผลดีกับเด็ก ๆอย่างไร 3. เด็กและครูร่วมกันสรุป ทบทวนถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการช่วยกันทํากิจกรรมศิลปะ สร้างสรรค์เป็นกลุ่ม
ขั้นการดําเนินกิจกรรมเด็กอายุ 5-6 ปี
ขั้นนำ
1. เด็กและครูร่วมกันร้องเพลง “เพลงชวนเพื่อน” พร้อมทําท่าประกอบ แล้วสนทนาซักถาม เกี่ยวกับเนื้อเพลง
2. แนะนําการทํากิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เป็นกลุ่ม โต๊ะที่ 1 กิจกรรมเส้นสีสร้างสรรค์ โดยครูจะให้เด็กๆช่วยกันวาดภาพระบายสีด้วยสีเทียน โต๊ะที่ 2 กิจกรรมฟิงเกอร์เพ้นท์ ครูให้เด็กพิมพ์ภาพด้วยนิ้วมือหรือฟองน้ำตามจินตนาการ โต๊ะที่ 3 กิจกรรมต่อเสริมเติมสวย โดยครูจะมีกระดาษสีและมีสำลีให้ แล้วให้เด็กๆช่วยกัน ฉีก ปะ ติด เป็นรูปต่างๆ
ขั้นการดำเนินการ
1. ให้เด็กนั่งตามกลุ่มกิจกรรมที่ตนเองเลือก กลุ่มละ 5 คน เพื่อร่วมกันทําการวางแผน ในการทํากิจกรรม กระตุ้นให้เด็กสนใจในกิจกรรม และให้แรงเสริมทางบวกขณะที่เด็กทํางาน เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมความร่วมมือ การช่วยเหลือ และความรับผิดชอบ
2. ขั้นทํากิจกรรมร่วมกัน เด็กลงมือปฏิบัติกิจกรรมตามที่ได้วางแผนไว้ในรูปแบบต่างๆ ที่ตรงตามความสนใจของสมาชิกในกลุ่ม
3. เมื่อปฏิบัติกิจกรรมเสร็จสิ้นแล้ว ให้แต่ละกลุ่มเก็บอุปกรณ์เข้าที่ และทําความสะอาดโต๊ะ กิจกรรมให้เรียบร้อย
1. ให้เด็กนั่งตามกลุ่มกิจกรรมที่ตนเองเลือก กลุ่มละ 5 คน เพื่อร่วมกันทําการวางแผน ในการทํากิจกรรม กระตุ้นให้เด็กสนใจในกิจกรรม และให้แรงเสริมทางบวกขณะที่เด็กทํางาน เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมความร่วมมือ การช่วยเหลือ และความรับผิดชอบ
2. ขั้นทํากิจกรรมร่วมกัน เด็กลงมือปฏิบัติกิจกรรมตามที่ได้วางแผนไว้ในรูปแบบต่างๆ ที่ตรงตามความสนใจของสมาชิกในกลุ่ม
3. เมื่อปฏิบัติกิจกรรมเสร็จสิ้นแล้ว ให้แต่ละกลุ่มเก็บอุปกรณ์เข้าที่ และทําความสะอาดโต๊ะ กิจกรรมให้เรียบร้อย
ขั้นสรุป
1. ให้เด็กแต่ละกลุ่มได้ออกมานําเสนอผลงานของกลุ่ม โดยครูกระตุ้นด้วยการใช้คําถาม 2. สนทนาและซักถามถึงการทํางานว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง มีปัญหาอะไรบ้าง ช่วยกันแก้ไข ปัญหาอย่างไร ผลงานที่ทําสําเร็จได้เพราะอะไร การร่วมมือกันทํางานมีผลดีกับเด็ก ๆอย่างไร 3. เด็กและครูร่วมกันสรุป ทบทวนถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการช่วยกันทํากิจกรรมศิลปะ สร้างสรรค์เป็นกลุ่ม
การประเมินผล 4-5 ปี
สังเกตพฤติกรรมความร่วมมือของเด็ก ในขั้นดําเนินกิจกรรม โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรม
ความร่วมมือ
สังเกตพฤติกรรมความร่วมมือของเด็ก ในขั้นดําเนินกิจกรรม โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรม
ความร่วมมือ
การประเมินผล 5-6 ปี
สังเกตพฤติกรรมความร่วมมือของเด็ก ในขั้นดําเนินกิจกรรม โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรม ความร่วมมือ และใช้คำถามเพื่อถามเกี่ยวกับกิจกรรมที่ทำ เช่น เด็กๆวางแผนการทำศิลปะอย่างไร เด็กๆแบ่งงานในการสร้างผลงานศิลปะอย่างไร
สังเกตพฤติกรรมความร่วมมือของเด็ก ในขั้นดําเนินกิจกรรม โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรม ความร่วมมือ และใช้คำถามเพื่อถามเกี่ยวกับกิจกรรมที่ทำ เช่น เด็กๆวางแผนการทำศิลปะอย่างไร เด็กๆแบ่งงานในการสร้างผลงานศิลปะอย่างไร
ประโยชน์
1.เด็กมีพฤติกรรมความร่วมมือในด้านการร่วมมือ การช่วยเหลือและความรับผิดชอบ 2.เด็กได้ร่วมมือกันวางแผนและทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม
1.เด็กมีพฤติกรรมความร่วมมือในด้านการร่วมมือ การช่วยเหลือและความรับผิดชอบ 2.เด็กได้ร่วมมือกันวางแผนและทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม
กิจกรรมที่ 3กิจกรรมลูกโป่งหรรษา
เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมความร่วมมือ ในด้านการร่วมมือ การช่วยเหลือ ความรับผิดชอบ เนื้อหา กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เป็นกลุ่ม โดยทำกิจกรรมส่งลูกโป่งข้ามศรีษะด้วยแขนสองข้าง เน้นพฤติกรรมความร่วมมือโดยที่เด็กแต่ละกลุ่มร่วมมือกันวางแผนและทํากิจกรรมร่วมกันและช่วยกันแก้ปัญหาปัญหาในขณะกิจกรรม
วัตถุประสงค์
1. เล่นเกมส่งลูกโป่งข้ามศรีษะโดยใช้มือ2ข้าง
2. เล่นและร่วมกิจกรรมกับผู้อื่นได้
3. ปฏิบัติตามข้อตกลงได้
4. แก้ปัญหาในการเล่นและตัดสินใจได้
วัสดุ/อุปกรณ์
1. ลูกโป่ง
2. นกหวีด
วิธีการดำเนินกิจกรรม
วิธีการเล่นแบ่งเป็น 2 ช่วงอายุ คือ ช่วงอายุ (2 - 4 ขวบ) และช่วงอายุ (4 - 6 ขวบ)
ขั้นนำ
1. ครูและเด็กกล่าวทักทาย สนทนาร่วมกันเกี่ยวกับกิจกรรม ลูกโป่งหรรษา และตกลงกันเรื่องกฎกติกา
ขั้นสอน
1. ครูอธิบายและสาธิตวิธีการเล่นลูกโป่งหรรษา
2. เด็ก ๆ ร่วมกันปฏิบัติกิจกรรมลูกโป่งหรรษา ช่วงอายุ (2 - 4 ขวบ) โดยแบ่งออกเป็น2กลุ่มกลุ่มละเท่าๆกัน ตัวแทน2คนออกมารับลูกโป่งที่เป่าแล้วที่ครูเตรียมไว้ให้
3. เด็กที่เหลือยืนต่อแถวเป็นแถวตอนลึก
4. ฟังสัญญาณนกหวีดจากครูแล้วส่งลูกโป่งโดยใช้แขนทั้ง2ข้างส่งไปเรื่อยๆจนถึงคนสุดท้ายทีมไหนเสร็จก่อนทีมนั้นนั่งลงแล้วจะถือว่าเป็นทีมผู้ชนะการเล่นของช่วงอายุ (4 - 6 ขวบ) คือ แบ่งผู้เล่นออกเป็น 2 ทีม ทีมละเท่าๆกันโดยแต่ละทีมจะตกลงกันว่าใครจะเป็นหัวหน้าโดยให้นักเรียนเลือกคนที่แข็งแรงที่สุดในทีม แล้วหัวหน้าของทั้ง2ทีมจะออกมารับลูกโป่งที่ครูเตรียมไว้ให้คน
1. ละสี แล้วกลับเข้าที่เพื่อที่จะรอเสียงสัญญาณนกหวีด
2. ครูเป่านกหวีดเพื่อให้สัญญาณเริ่มของทั้ง2 ทีม
3. หัวหน้าทีมเป่าลูกโป่งจนได้ขนาดที่ครูกำหนดให้ หลังจากนั้นมัดโดยห้ามใช้ยางยืด ให้พันลูกโป่งเป็นเงื่อนแล้วส่งต่อไปให้ลูกทีมจนถึงคนสุดท้ายแล้วนั่งลงทีมไหนนั่งลงก่อนถือว่าทีมนั้นเป็นผู้ชนะ
ขั้นสรุป
1. เมื่อปฏิบัติกิจกรรมเสร็จ ครูพาเด็ก ๆ ทำความสะอาดร่างกายก่อนเข้าห้องเรียน
2. ครูและเด็กช่วยกันสรุปกิจกรรมที่ปฏิบัติและประโยชน์ที่ได้รับจากกิจกรรมในครั้งนี้
ประโยชน์ที่ได้รับ
1. เด็กได้ฝึกทักษะทางด้านสังคม และการเล่นร่วมกับผู้อื่น
2. เด็กได้ฝึกการร่วมมือ การช่วยเหลือและการแก้ปัญหา
3. เด็กได้ฝึกความสามัคคีในการทำกิจกรรม
4. เด็กได้ความสนุกสนานเพลิดเพลิน
5. เด็กได้ฝึกปฏิบัติตนตามกฎระเบียบกติกาในการทำกิจกรรม
วิธีการประเมิน
1. สังเกตการเล่นเกมส่งลูกโป่งข้ามศรีษะโดยใช้สองมือ
2. สังเกตการเล่นและร่วมกิจกรรมกับผู้อื่น
3. สังเกตการปฏิบัติตามข้อตกลง
4. สังเกตการแก้ไขปัญหาและการตัดสินใจภายในแต่ละกลุ่ม
วัตถุประสงค์
1.เพื่อพัฒนาทักษะทางด้านสังคมสำหรับเด็กปฐมวัยในการเล่นร่วมกับผู้อื่น
2.เพื่อส่งเสริมการเคารพกฎระเบียบและกติกาในการปฏิบัติกิจกรรมร่วมกัน
3.เพื่อฝึกความสามัคคี ร่วมและการแบ่งปัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการปฏิบัติกิจกรรม
สื่อและวัสดุอุปกรณ์
1.หน้ากาเสือและวัว
2.นกหวีด
ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรม
วิธีการเล่นแบ่งเป็น 2 ช่วงอายุ คือ ช่วงอายุ (2 - 4 ขวบ) และช่วงอายุ (4 - 6 ขวบ)
ขั้นนำ
- ครูและเด็กกล่าวทักทาย สนทนาร่วมกันเกี่ยวกับกิจกรรม เสือกินวัว ตกลงกันเรื่องกฎกติกา และร่วมร้องเพลงจับมือกันเป็นวงกลม
ขั้นสอน
- - ครูอธิบายและสาธิตวิธีการเล่นเสือกินวัว
- เด็ก ๆ ร่วมกันปฏิบัติกิจกรรมเสือกินวัวช่วงอายุ (2 - 4 ขวบ) โดยเลือกตัวแทน 2 คน
(1 คนเป็นเสือ 1 คนเป็นวัว)
(1 คนเป็นเสือ 1 คนเป็นวัว)
- เด็กที่เหลือจับมือกันเป็นวงกลม (คอก)
- ให้เสืออยู่นอกคอกพยายามเข้าไปในคอกเพื่อจับวัวกินคอกห้ามปล่อยให้เสือเข้าได้อีกวิธีหนึ่งในการเล่นของช่วงอายุ (4 - 6 ขวบ) คือ
- แบ่งผู้เล่นออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายละเท่า ๆ กันและส่งตัวแทนออกมาเป็นเสือและวัว ฝ่ายละ 1 คน ผู้เล่นยืนจับมือกันเป็นวงกลม ไม่ปะปนกัน ครึ่งหนึ่งเป็นเสือ อีกครึ่งหนึ่งเป็นวัวยืนสลับกัน
- ฝ่ายเสืออยู่นอกคอกพยายามเข้าไปในคอกเพื่อจับวัวกิน เสือต้องเข้าคอกทางฝ่ายของตนยืนอยู่ และฝ่ายของตนก็ปล่อยให้เสือเข้าได้
- ถ้าเสือเตะวัวได้แล้ว ก็เปลี่ยนให้เด็กคนอื่น ๆ สลับกันออกมาเล่นเรื่อย ๆ
ขั้นสรุป
- เมื่อปฏิบัติกิจกรรมเสร็จ ครูพาเด็ก ๆ ทำความสะอาดร่างกายก่อนเข้าห้องเรียน
- ครูและเด็กช่วยกันสรุปกิจกรรมที่ปฏิบัติและประโยชน์ที่ได้รับจากกิจกรรมในครั้งนี้
ประโยชน์ที่ได้รับจากกิจกรรม
1. เด็กได้ฝึกทักษะทางด้านสังคม และการเล่นร่วมกับผู้อื่น
2. เด็กได้ฝึกการร่วมมือ การช่วยเหลือและการแก้ปัญหา
3. เด็กได้ฝึกความสามัคคีในการทำกิจกรรม
4. เด็กได้ความสนุกสนานเพลิดเพลิน
5. เด็กได้ฝึกปฏิบัติตนตามกฎระเบียบกติกาในการทำกิจกรรม
กิจกรรมที่ 5 กิจกรรม
2.หลอด 3.ภาพดอกไม้
4.กาว
5.กรรไกร
6.สีเทียน
กิจกรรมประดิษฐ์ดอกไม้แสนสวยจากถ้วยเยลลี่ปีโป้
วัตถุประสงค์
เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมในด้านสังคม การส่งทำงานร่วมกับผู้อื่น การแบ่งปันซึ่งกันและกัน การรอคอย ความสามัคคี และรับผิดชอบ กิจกรรมประดิษฐ์ดอกไม้แสนสวยจากถ้วยเยลลี่ปีโป้
วัสดุ / อุปกรณ์
1.ถ้วยเยลลี่ปีโป้
|
4.กาว
5.กรรไกร
6.สีเทียน
วิธีดำเนินกิกรรมเด็กอายุ 4-5 ปี
ขั้นนำ
1.ครูเตรียมความพร้อมให้เด็กด้วยเพลง “ยินดีที่พบกัน” พร้อมท่าทางประกอบ
2.ครูแนะนำกิจกรรมการประดิษฐ์ดอกไม้แสนสวยจากถ้วยเยลลี่ปีโป้ โดยให้เด็กร่วมกันสร้างผลงานเป็นกลุ่ม โดยครูให้เด็กจับกลุ่ม 5-6 คน แต่ละกลุ่มจะต้องสร้างผลงานตนเองมา 1 ชิ้น โดยครูจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมก่อนเริ่มกิจกรรม ครูนำถ้วยเยลลี่ปีโป้ที่ยังไม่ตัดก้น นำมาตัดเตรียมไว้เพื่อให้นักเรียนนำหลอดมาใส่ก้นถ้วยปีโป้ และสร้างดอกไม้จากถ้วยเยลลี่ปีโป้ร่วมกันตามจินตนาการ
3. ครูสร้างข้อตกลงร่วมกันกับเด็ก ขณะปฏิบัติกิจกรรมประดิษฐ์ดอกไม้แสนสวยจากถ้วยเยลลี่ปีโป้
2.ครูแนะนำกิจกรรมการประดิษฐ์ดอกไม้แสนสวยจากถ้วยเยลลี่ปีโป้ โดยให้เด็กร่วมกันสร้างผลงานเป็นกลุ่ม โดยครูให้เด็กจับกลุ่ม 5-6 คน แต่ละกลุ่มจะต้องสร้างผลงานตนเองมา 1 ชิ้น โดยครูจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมก่อนเริ่มกิจกรรม ครูนำถ้วยเยลลี่ปีโป้ที่ยังไม่ตัดก้น นำมาตัดเตรียมไว้เพื่อให้นักเรียนนำหลอดมาใส่ก้นถ้วยปีโป้ และสร้างดอกไม้จากถ้วยเยลลี่ปีโป้ร่วมกันตามจินตนาการ
3. ครูสร้างข้อตกลงร่วมกันกับเด็ก ขณะปฏิบัติกิจกรรมประดิษฐ์ดอกไม้แสนสวยจากถ้วยเยลลี่ปีโป้
- ร่วมกันวางแผน แบ่งหน้าที่กันและปรึกษากันได้ในขั้นตอนการทำงาน- เมื่อทำกิจกรรมเสร็จแล้วช่วยกันทำความสะอาดให้เรียบร้อย
ขั้นสอน
1.ครูแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน แล้วครูสาธิตวิธีการประดิษฐ์ดอกไม้แสนสวยจากถ้วยเยลลี่ปีโป้ให้นักเรียนดู โดยครูสาธิตดังนี้
-ขั้นตอนที่หนึ่ง ระบายสีภาพดอกไม้ที่เด็กเลือก เมื่อระบายสีเสร็จเอากรรไกรตัดตามเส้นรูปดอกไม้
-ขั้นตอนที่สอง นำถ้วยปีโป้ที่ตัดก้นเรียบร้อยแล้ว แล้วเอาหลอดที่เตรียมไว้สอดไว้ก้นปีโป้ตรงด้านล่าง
-ขั้นตอนที่สาม ทากาวตรงรอบวงกลมรอบถ้วยเยลลี่ปีโป้แล้วเอาภาพดอกไม้ไปติดให้สวยงามตรงที่เราทากาวไว้จากนั้นเป็นอันเสร็จเรียบร้อย2.เด็กลงมือปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจในกลุ่มร่วมกัน ขณะที่เด็กปฏิบัติกิจกรรมครูมีบทบาทในการกระตุ้นให้เด็กเกิดแรงเสริมทางบวก ขณะที่เด็กปฏิบัติกิจกรรม เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมการช่วยเหลือการทำงานร่วมมือกัน
-ขั้นตอนที่สาม ทากาวตรงรอบวงกลมรอบถ้วยเยลลี่ปีโป้แล้วเอาภาพดอกไม้ไปติดให้สวยงามตรงที่เราทากาวไว้จากนั้นเป็นอันเสร็จเรียบร้อย2.เด็กลงมือปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจในกลุ่มร่วมกัน ขณะที่เด็กปฏิบัติกิจกรรมครูมีบทบาทในการกระตุ้นให้เด็กเกิดแรงเสริมทางบวก ขณะที่เด็กปฏิบัติกิจกรรม เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมการช่วยเหลือการทำงานร่วมมือกัน
3.เมื่อปฏิบัติกิจกรรมเรียบร้อยแล้ว ให้เด็กแต่ละกลุ่มช่วยกันเก็บอุปกรณ์เข้าที่ให้เรียบร้อย
ขั้นสรุป
1.เมื่อเด็กทำกิจกรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยครูสนทนาซักถาม ถึงการทำงานร่วมกัน ว่าเด็กทำกิจกรรมนี้ได้อะไรจากกิจกรรมนี้บ้าง มีการแบ่งหน้าที่กันอย่างไร ช่วยเหลือกันอย่างไร
1.เมื่อเด็กทำกิจกรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยครูสนทนาซักถาม ถึงการทำงานร่วมกัน ว่าเด็กทำกิจกรรมนี้ได้อะไรจากกิจกรรมนี้บ้าง มีการแบ่งหน้าที่กันอย่างไร ช่วยเหลือกันอย่างไร
2.นักเรียนและครูสรุปร่วมกัน ถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการทำกิจกรรมร่วมกัน
วิธีดำเนินกิกรรมเด็กอายุ 5-6 ปี
ขั้นนำ
1.ครูเตรียมความพร้อมให้เด็กด้วยเพลง “ยินดีที่พบกัน” พร้อมท่าทางประกอบ
2.ครูแนะนำกิจกรรมการประดิษฐ์ดอกไม้แสนสวยจากถ้วยเยลลี่ปีโป้ โดยให้เด็กร่วมกันสร้างผลงานเป็นกลุ่ม โดยครูให้เด็กจับกลุ่ม 5-6 คน แต่ละกลุ่มจะต้องสร้างผลงานมา 1 ชิ้น โดยครูจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมก่อนเริ่มกิจกรรม โดยวัสดุอุปกรณ์ ครูนำมาเตรียมไว้เพื่อให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมสร้างดอกไม้จากถ้วยเยลลี่ปีโป้ร่วมกันตามจินตนาการ
3.ครูสร้างข้อตกลงร่วมกันกับเด็ก ขณะปฏิบัติกิจกรรมประดิษฐ์ดอกไม้แสนสวยจากถ้วยเยลลี่ปีโป้
- ร่วมกันวางแผน แบ่งหน้าที่ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน - เมื่อทำกิจกรรมเสร็จแล้วช่วยกันทำความสะอาดให้เรียบร้อย
1.ครูเตรียมความพร้อมให้เด็กด้วยเพลง “ยินดีที่พบกัน” พร้อมท่าทางประกอบ
2.ครูแนะนำกิจกรรมการประดิษฐ์ดอกไม้แสนสวยจากถ้วยเยลลี่ปีโป้ โดยให้เด็กร่วมกันสร้างผลงานเป็นกลุ่ม โดยครูให้เด็กจับกลุ่ม 5-6 คน แต่ละกลุ่มจะต้องสร้างผลงานมา 1 ชิ้น โดยครูจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมก่อนเริ่มกิจกรรม โดยวัสดุอุปกรณ์ ครูนำมาเตรียมไว้เพื่อให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมสร้างดอกไม้จากถ้วยเยลลี่ปีโป้ร่วมกันตามจินตนาการ
3.ครูสร้างข้อตกลงร่วมกันกับเด็ก ขณะปฏิบัติกิจกรรมประดิษฐ์ดอกไม้แสนสวยจากถ้วยเยลลี่ปีโป้
- ร่วมกันวางแผน แบ่งหน้าที่ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน - เมื่อทำกิจกรรมเสร็จแล้วช่วยกันทำความสะอาดให้เรียบร้อย
ขั้นสอน
1.ครูแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน แล้วครูอธิบายถึงวิธีการประดิษฐ์ดอกไม้แสนแสนสวยจากถ้วยเยลลี่ปีโป้
2.เด็กลงมือปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจในกลุ่มร่วมกัน ขณะที่เด็กปฏิบัติกิจกรรมครูมีบทบาทในการกระตุ้นให้เด็กเกิดแรงเสริมทางบวกขณะที่เด็กปฏิบัติกิจกรรม เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมการช่วยเหลือ การทำงานร่วมมือกัน-3.เมื่อปฏิบัติกิจกรรมเรียบร้อยแล้ว ให้เด็กช่วยกันเก็บอุปกรณ์เข้าที่
ขั้นสรุป
1.เมื่อเด็กทำกิจกรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยครูสนทนาซักถาม ถึงการทำงานร่วมกัน ว่าเด็กทำกิจกรรมนี้ได้อะไรจากกิจกรรมนี้บ้าง มีการแบ่งหน้าที่กันอย่างไร ช่วยเหลือกันอย่างไร
2.นักเรียนและครูสรุปร่วมกัน ถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการทำกิจกรรมร่วมกัน
2.นักเรียนและครูสรุปร่วมกัน ถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการทำกิจกรรมร่วมกัน
การประเมินผล
อายุ 5-6 ปี สังเกตพฤติกรรมทางสังคมของเด็กนักเรียน ในขั้นดำเนินกิจกรรม โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมทางสังคมประโยชน์ที่ได้รับจากการทำกิจกรรม
1.เกิดทักษะการทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น
2.รู้จักการรอคอย
3.เด็กรู้จักรับผิดชอบเมื่อทำกิจกรรมเสร็จต้องช่วยกันทำความสะอาดบริเวณที่ตนเองทำกิจกรรม
สรุปผลการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ด้วยเศษใบไม้
จัดกิจกรรมเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ.2562
ผู้รับผิดชอบ 1.นางสาวศุวลักษณ์ สำรวมจิตร รหัสนักศึกษา 59191860209
2.นางสาวดิมาพร เพ่งพิศ รหัสนักศึกษา 59191860220
จากการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์จากเศษใบไม้ในครั้งนี้ พบว่า นักเรียนมีความช่วยเหลือกัน
ได้ทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มมีความสามัคคีและมีการร่วมมือในการทำกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดจากกลุ่มรับฟังความคิดเห็นกับผู้อื่น และปฏิบัติตามข้อตกลงที่วางไว้ร่วมกัน นักเรียนให้ความร่วมมือดีมากสมาชิกในกลุ่มช่วยกันทำงานกันอย่างมีระบบทำให้การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ผ่านไปได้ด้วยดี
ข้อเสนอแนะ
1.อาจจะนำใบไม้ไปตากแดดก่อนเพื่อไม่ให้ใบกรอบเกินไป
2.จัดสรรเวลาให้เหมาะสมกับกิจกรรม
3.ควรเลือกใบไม้ที่ปะติดง่าย
ภาพกิจกรรม
สรุปการจัดกิจกรรมการทำศิลปะเป็นกลุ่ม
วันที่ 12 กรกฎาคม 2562
ผู้รับผิดชอบกิจกรรม : 1. นางสาววุฒิพร เหมาะตัว รหัสนักศึกษา 59191860309 2. นางสาวชมภู ดาทอง รหัสนักศึกษา 59191860317
ผู้รับผิดชอบกิจกรรม : 1. นางสาววุฒิพร เหมาะตัว รหัสนักศึกษา 59191860309 2. นางสาวชมภู ดาทอง รหัสนักศึกษา 59191860317
จากการทดลองกิจกรรมการทำศิลปะเป็นกลุ่มโดยได้ทดลองใช้กับนักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาการศึกษาปฐมวัยจำนวนหนึ่งพบว่า ผู้ได้รับการทดลองมีความสนใจในตัวกิจกรรมและสื่อที่นำมาใช้ ๆ ช่วยกันคิดออกแบบผลงานของกลุ่ม มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์พูดคุยเกี่ยวกับสื่อ พูดคุยสอบถามเกี่ยวกับการทำกิจกรรมดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ และได้ทำกิจกรรมเป็นกลุ่มสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ข้อเสนอแนะ
1.ควรใช้วัสดุที่หลากหลาย
2.ควรนำวัสดุที่เป็นธรรมชาติมาใช้ด้วย
จัดกิจกรรมเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2562
ผู้รับผิดชอบ 1. นางสาวสุกัญญา แซ่อึง รหัสนักศึกษา 59191860116
2. นางสาววารุณี เหล่างาม รหัสนักศึกษา 59191860207
จากการจัดกิจกรรมลูกโป่งหรรษาครั้งนี้ พบว่า ผู้เล่นให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมระหว่างที่ผู้เล่นทำกิจกรรม ผู้เล่นมีความสามัคคีและการร่วมมือในการเล่นกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น มีไหวพริบที่ดีช่วยกัแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าช่วยกันหาผู้นำทีมโดยการโหวดการออกความคิดเห็นภายในกลุ่มของตนเอง มีการวางแผนการตกลงภายในกลุ่มและรับผิดชอบในหน้าที่ที่ตนได้รับมอบหมายในกลุ่มเป็นอย่างดี กาทำกิจกรรมในครั้งนี้เป็นอย่างดีในแต่ละกลุ่มและผู้ปฏิบัติกิจกรรมนี้สามารถปฏิบัติตามข้อตกลงที่วางไว้ร่วมกันได้ มีความกระตือรือร้นที่จะทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นเพื่อให้สำเร็จตามที่คาดหวัง ขณะที่ทำกิจกรรมผู้เล่นมีอารมณ์ร่าเริงแจ่มใสและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมเป็นอย่างดี
ข้อเสนอแนะ
1. บริเวณพื้นที่ทำกิจกรรมค่อนข้างมีพื้นที่น้อย
2. การใช้เสียงอาจรบกวนผู้ทำกิจกรรมฐานอื่นเนื่องจากไม่ได้แยกโซนกิจกกรม
2. การใช้เสียงอาจรบกวนผู้ทำกิจกรรมฐานอื่นเนื่องจากไม่ได้แยกโซนกิจกกรม
ภาพกิจกรรม
สรุปผลการจัดกิจกรรมเสือกินวัว
จัดกิจกรรมเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ.2562
ผู้รับผิดชอบ 1. นางสาวเพ็ญศิริ มะลิหอม รหัสนักศึกษา 59191860113
2. นางสาวสร้อยสวรรค์ ทางดี รหัสนักศึกษา 59191860114
จากการจัดกิจกรรมเสือกินวัวในครั้งนี้ พบว่า ผู้เล่นมีความสามัคคีและการร่วมมือในการเล่นกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น และปฏิบัติตามข้อตกลงที่วางไว้ร่วมกัน มีความกระตือรือร้น มีไหวพริบ คล่องแคล่วว่องไว อารมณ์แจ่มใสและรู้จักรับผิดชอบในการกระทำของตนเองต่อการเล่นกิจกรรมดีมาก
ข้อเสนอแนะ
1.เพิ่มรูปแบบการเล่นที่หลากหลาย เช่น วัว 5 ตัว เสือ 3 ตัว เป็นต้น
2.มีการควบคุมบริเวณการวิ่งของวัว เมื่ออยู่บริเวณนอกคอก
ภาพกิจกรรม
สรุปผลการจัดกิจกรรมประดิษฐ์ดอกไม้แสนสวยจากถ้วยเยลลี่ปีโป้
จัดกิจกรรมเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ.2562
ผู้รับผิดชอบ 1. นางสาวกัญญาภรณ์ กล้าเสสมอ รหัสนักศึกษา 59191860308
2. นางสาวธัญญลักษณ์ ยงยิ่งยืน รหัสนักศึกษา 59191860221
จากการจัดกิจกรรมประดิษฐ์ดอกไม้จากถ้วยเยลลี่ปีโป้ในครั้งนี้ พบว่า ผู้เล่นมีความสนุกสนานเเละเพลิดเพลินกับกิจกรรมเป็นอย่างมาก เเละปฎิบัติามข้อตกลงที่ตั้งไว้อีกด้วย เมื่อทำกิจกรรมเสร็จเเล้ว ผู้ทำกิจกรรมมีความสามัคคีเเละรับผิดชอบ ในการปฎิติตามข้อตกลงโดยเก็บเศษกระดาษ เเละอุปกรณ์เข้าเรียบร้อย เเละในขณะทำกิจกรรมผู้ทำกิจกรรมตั้งใจทำดอกไม้จากถ้วยเยลลี่ปีโป้อย่างมาก เเละเมื่อหมดเวลาผู้ทำกิจกรรมยังทำกิจกรรมยังไม่เสร็จได้มีการฝากไว้ เเล้วจะมาทำต่อเเละได้ขอผลงานของตนเองไว้ เเละผู้ทำกิจกกรรมได้ขอทำดอกไม้อีกนอกเหนือจากที่กำหนด กลัวว่าจะไม่พอจำนวนคนจึงไม่ได้ให้ทำ
ข้อเสนอแนะ
1. ควรตัดก้นปีโป้ไว้เพื่อง่ายต่อการทำกิจกรรม
2. ควรมีรูปภาพดอกไม้ที่หลากหลาย
ภาพกิจกรรม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น