วันอังคารที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2562

ด้านร่างกาย


กลุ่มที่ 1 พัฒนาการทางด้านร่างกาย


ความหมายของพัฒนาการ

พัฒนาการ (Development) หมายถึง การเปลี่ยนแปลงด้านการทำหน้าที่และวุฒิภาวะ ของอวัยวะระบบต่างๆ รวมทั้งตัวบุคคล ให้สามารถทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำสิ่งที่ยากสลับ ซับซ้อนมากขึ้นตลอดจนการเพิ่มทักษะใหม่ๆและความสามารถในการปรับตัวต่อสภาวะแวดล้อมหรือภาวะใหม่ในบริบทของครอบครัวและสังคม

พัฒนาการด้านร่างกาย (Physical หรือ Psycho-motor development) หมายถึง การเปลี่ยนแปลงด้านขนาด รูปร่าง ทรวดทรง และด้านอื่นๆของระบบร่างกายและโครงสร้างของร่างกาย เช่น การเปลี่ยนเปลี่ยนของขนาด รูปร่าง การขยายของทรวงอก หรือการเพิ่มประสิทธิภาพของหน้าที่ต่างๆที่เกี่ยวกับร่างกาย เป็นต้น

      พัฒนาการด้านร่างกายนี้สามารถแบ่งออกเป็น 2 ด้าน คือ
1. พัฒนาการทางด้านปริมาณ ได้แก่ การเจริญเติบโตทางด้านร่างกาย เช่น ส่วนสูง ตัวโตขึ้น และมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น
2. พัฒนาการทางด้านคุณภาพ ได้แก่ ความสามารถในการเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ เช่น การนั่ง การยืน การเดิน การวิ่ง และการกระโดด

ลักษณะพัฒนาการด้านร่างกายของเด็กปฐมวัย
      แบ่งตามอายุของเด็กมีลักษณะ ดังนี้
      1. พัฒนาการด้านร่างกายเด็กวัย 1 ปี
เด็กในวัยนี้มีพัฒนาการทางการเคลื่อนไหว เริ่มจากการคลานและเดินด้วยตนเองได้เมื่ออายุประมาณ 15 เดือน แต่การทรงตัวยังไม่ค่อยดี การใช้กล้ามเนื้อมือของเด็กในวัยนี้จะพบว่าเด็กสามารถเปิดประตูและเปิดดูรูปภาพในหนังสือได้โดยใช้มือข้างที่ชำนาญ
      2. พัฒนาการด้านร่างกายเด็กวัย 2 ปี
เด็กวัยนี้สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ทุกส่วน ชอบเล่นของเล่นที่ออกแรงมากๆ เช่น เตะลูกบอล ตีและตอกด้วยค้อน เด็กวัยนี้สามารถเดินขึ้นลงบันไดได้เองแต่ต้องวางขาทั้ง 2 ข้าง บนขั้นบันไดเดียวกันก่อน จนอายุย่าง 3 ปี จะสามารถสลับเท้าขึ้นบันไดได้ วิ่งได้คล่องขึ้นแต่ก็ยังไม่สามารถหยุดได้ทันที การใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก สามารถหยิบจับสิ่งของชิ้นเล็กๆแต่หลุดมือง่าย จับดินสอแทงใหญ่ๆได้ด้วยนิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือ การประสานสัมพันธ์ระหว่างมือและนิ้วทำงานได้ดีสามารถต่อบล็อกได้ 4-8 ชิ้น
      3. พัฒนาการด้านร่างกายเด็กวัย 3 ปี
เด็กวัยนี้กล้ามเนื้อแข็งแรง ชอบออกกำลังกาย สามารถบังคับการเคลื่อนไหวได้ดีมาก กระโดดหรือวิ่งก็ได้ ขี่จักรยาน 3 ล้อ กระโดดสูง กระโดดขาเดียว สามารถขึ้นลงบันไดสลับเท้าได้ รับลูกบอลได้ด้วยมือทั้งสองข้าง และสามารถโยนลูกบอลระยะไกล 1 เมตรได้ เขียนรูปวงกลมตามแบบได้ และยังใช้กรรไกรด้วยมือข้างเดียวได้ ใช้มือหยิบจับอาหารตลอดจนใช้ช้อนตักอาหารเข้าปาก ช่วยตัวเองในการแต่งกาย เช่น ถอดและใส่กระดุมเสื้อได้เอง แต่ยังต้องการให้ผู้ใหญ่ช่วยเหลือ
      4. พัฒนาการด้านร่างกายเด็กวัย 4 ปี
กล้ามเนื้อขาและแขนแข็งแรง การเคลื่อนไหวของร่างกายของเด็กวัยนี้ กระฉับกระเฉงไม่ชอบอยู่นิ่ง ปีนป่าย เต้นท่าทางต่างๆได้อย่างสนุกสนาน ใช้มือถนัดขึ้น หยิบวัตถุเล็กๆได้ สามารถวิ่งและหยุดได้คล่อง รับลูกบอลได้ด้วยมือทั้งสอง เดินขึ้นลงบันไดสลับเท้าได้ เขียนรูปสี่เหลี่ยมตามแบบได้ ตัดกระดาษเป็นเส้นตรงได้ สามารถช่วยตนเองเรื่องปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ เช่น การแต่งกาย การแปรงฟัน การหวีผม เป็นต้น
      5. พัฒนาการด้านร่างกายเด็กวัยระหว่าง 5-6 ปี
สามารถควบคุมกล้ามเนื้อส่วนใหญ่ได้ดี แต่รายละเอียดยังไม่ดีนัก เด็กวัยนี้สามารถฝึกพับกระดาษ ตัดกระดาษ และเล่นเกี่ยวกับการก่อสร้างได้ดี ผูกเชือกรองเท้า เขียนรูปสามเหลี่ยมตามแบบ และยังสามารถใช้กรรไกรตัดกระดาษตามแนวเส้นโค้งที่กำหนดได้ สามารถปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ดี เช่นการอาบน้ำ สระผม แปรงฟัน ล้างมือ แต่งกาย ฯลฯ

ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับพัฒนาการและการเรียนรู้ทางร่างกายของเด็กปฐมวัย
ทฤษฎีพัฒนาการของกีเซล (Gesell)
อาร์โนลด์ กีเซล (Arnold Gesell. 1880-1961) (อ้างถึงใน สิริมา  ภิญโญอนันตพงษ์, 2547 : 35) เป็นนักจิตวิทยาชาวอเมริกัน ผู้เริ่มก่อตั้งสถาบันพัฒนาการเด็ก (Institute of Child Development) ณ มหาวิทยาลัยเยล ระหว่างปี ค.ศ. 1930-1940 อธิบายทฤษฎีเกี่ยวกับการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็กว่าการเจริญเติบโตของเด็กทางร่างกาย เนื้อเยื่อ อวัยวะ หน้าที่ของอวัยวะต่าง ๆ และพฤติกรรมที่ปรากฏขึ้นเป็นรูปแบบที่แน่นอนและเกิดขึ้นเป็นลำดับขั้น ประสบการณ์ และสภาพแวดล้อมเป็นองค์ประกอบรองที่ต่อเติมเต็มเสริมพัฒนาการต่าง ๆ กีเซลเชื่อว่าวุฒิภาวะจะถูกกำหนดโดยพันธุกรรม และมีในเด็กแต่ละคนมาตั้งแต่เกิด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เด็กแต่ละวัยมีความพร้อมทำสิ่งต่างๆ ได้ ถ้าวุฒิภาวะหรือความพร้อมยังไม่เกิดขึ้นตามปกติในวัยนั้น สภาพแวดล้อมจะไม่มีอิทธิพลต่อพัฒนาการของเด็ก
อาร์โนลด์ กีเซล (Arnold Gesell) ได้สร้างเกณฑ์มาตรฐานสำหรับวัดพฤติกรรมของเด็กในแต่ละระดับ เน้นความแตกต่างระหว่างบุคคลโดยใช้วิธีการสังเกตพฤติกรรม ซึ่งเขาได้แบ่งพัฒนาการของเด็กที่ต้องการวัดและประเมินออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่
1. พฤติกรรมทางการเคลื่อนไหว (Motor Behavior) ครอบคลุมการบังคับอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายและความสัมพันธ์ทางด้านการเคลื่อนไหว
2. พฤติกรรมทางการปรับตัว (Adaptive Behavior) ครอบคลุมความสัมพันธ์ของการใช้มือและสายตา การสำรวจ ค้นหา การกระทำต่อวัตถุ การแก้ปัญหาในการทำงาน
3. พฤติกรรมทางการใช้ภาษา (Language Behavior) ครอบคลุมการที่เด็กใช้ภาษา การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน
4. พฤติกรรมส่วนตัวและสังคม (Personal-Social Behavior) ครอบคลุมการฝึกปฏิบัติส่วนตัว เช่น การกินอาหาร การขับถ่าย และการฝึกต่อสภาพสังคม เช่น กรเล่น การตอบสนองผู้อื่น
จากแนวความคิดของ อาร์โนลด์ กีเซล (Arnold Gesell) สามารถนำมาอธิบายพัฒนาการของมนุษย์ในด้านการเจริญเติบโตพัฒนาการทางร่างกาย และสามารถนำไปเชื่อมโยงกับพัฒนาการทางสติปัญญาได้อีกด้วย นอกจากนั้น อาร์โนลด์ กีเซล (Arnold Gesell) ได้เขียนหนังสือขึ้น 2 เล่ม คือ The First Five Year of Life และ The Child from Five to Ten ซึ่งแนวคิดดังกล่าวนี้มีบทบาทมากต่อการจัดกลุ่มเด็กเข้าศึกษาในชั้นอนุบาลศึกษาและชั้นประถมศึกษา เกณฑ์มาตรฐานใช้เป็นแบบทดสอบมาตรฐานในการทำนายพฤติกรรม วิเคราะห์กลุ่ม และทำวิจัย เพื่อบอกลักษณะพัฒนาการของเด็ก โดยใช้อายุทางปฏิทินเป็นเกณฑ์ นอกจากนี้มีบทบาทมากในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้กับเด็ก โดยการจัดกิจกรรมนั้นต้องให้เหมาะสมกับวุฒิภาวะของเด็กแต่ละคน 


ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับพัฒนาการและการเรียนรู้ทางร่างกายของเด็กปฐมวัย

          ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับพัฒนาการและการเรียนรู้ทางร่างกายของเด็กปฐมวัยนั้นจะกล่าวถึงทักษะการใช้ร่างกาย โดยพิจารณาทั้งด้านการเคลื่อนไหวเป็นหลัก ทั้งทั้ง 2 ทฤษฎีนี้มีมุมมองแตกต่างกันในแง่มุมของปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวโดยทฤษฎีวุฒิภาวะมีความเชื่อว่าวุฒิภาวะเป็นตัวกำหนดขั้นตอนของการเรียนรู้พัฒนาการทางร่างกาย แต่ทฤษฎีระบบพลวัตเชื่อว่าปัจจัยที่มีผลต่อพัฒนาการมีหลายปัจจัยที่นำมาบูรณาการกันประการสำคัญคือแรงจูงใจที่ทำให้เกิดพัฒนาการ ทักษะการเคลื่อนไหวใหม่ๆขึ้น


กิจกรรมที่ 1
ร้อยรักการสาน



จุดประสงค์
   1.  เพื่อพัฒนาความสามารถในการควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อมัดเล็กให้ประสานสัมพันธ์กันระหว่างมือกับตาได้
   2.  เพื่อปฏิบัติตามคำสั่งของครูได้
   3.  เพื่อฝึกทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น
   4.   เพื่อฝึกสมาธิให้จดจ่อกับสิ่งที่กำลังทำอยู่

วัสดุอุปกรณ์
               1.   ใบมะพร้าว
               2.    กรรไกร
               3.    กระดาษโปสเตอร์สี
               4.     สก็อตเทปใส



กิจกรรมสำหรับเด็กอายุ 2 – 3 ปี
ขั้นนำ
1.ครูและเด็กร่วมกันสนทนา อธิบายวิธีขั้นตอนในการทำกิจกรรม
2.ครูจัดเตรียมอุปกรณ์ในการทำกิจกรรมให้เรียบร้อย
ขั้นกิจกรรม
3.ตัดกระดาษสีเป็นเส้น หนาประมาณ 1 นิ้ว ตัดทิ้งไว้ประมาณ 10 เส้น ตัดทิ้งไว้ทั้ง 2 สี
4.จากนั้นเรียงสีใดสีหนึ่ง ในแนวตั้ง ยึดไว้ด้วย สก็อตเทปใส
5.นำกระดาษอีกสีมาสาน เป็นตาราง โดยสลับกันไป-มา
6.ทำจนหมดเส้นที่ตัดไว้ หรือ ตามความยาวของกระดาษ
7.เมื่อเสร็จ ลอกสก็อตเทปใสออก
ขั้นสรุป
 8..เมื่อเด็กทำกิจกรรมเสร็จแล้ว เด็กและครูร่วมกันสรุปกิจกรรมกับเพื่อนๆ ว่านอกจากใบมะพร้าวแล้ว ยังมีวัสดุธรรมชาติอื่นๆอีกไหม ที่สามารถนำมาร้อยได้
9.ครูและเด็กช่วยกันเก็บวัสดุอุปกรณ์และทำความสะอาดบริเวณของตนเอง



กิจกรรมเหมาะสำหรับเด็กอายุ 4 – 6 ปี
ขั้นนำ
1.ครูและเด็กร่วมกันสนทนา อธิบายวิธีขั้นตอนในการทำกิจกรรม
2.ครูจัดเตรียมอุปกรณ์ในการทำกิจกรรมให้เรียบร้อย
ขั้นกิจกรรม
3. นำใบมะพร้าวสดมาฉีกเป็นเส้นยาว  50  เซนติเมตร  กว้าง  2  เซนติเมตร จำนวน  4  เส้น นำใบมะพร้าวมาวางทับกัน พับปลายเส้นด้านซ้ายพับขึ้นบนแล้วพับปลาย  อีกข้างพับขึ้นบนทับเส้นด้านซ้าย
5. พับด้านบนลงมา  แล้วนำปลายด้านล่างขึ้นมาสอดที่ช่องใต้รอยพับแล้วดึงให้แน่น
6. สานเหมือนกับ (ข้อ 1 – ข้อ 3)  2  ชุด   นำมาสานขัดกันเหมือนหางเปียไม่พับริม  4 – 5  รอบ
7. จัดรูปตะกร้อ  ส่วนที่สานแล้วให้เข้าที่  นำปลายสอดตามปลายที่สาน สอดเรื่อยๆ ไปจนพอเหมาะ ตัดส่วนที่เหลือทิ้งด้วยกรรไกร  จะได้ตะกร้อ ตกแต่งให้เรียบร้อยสวยงาม 
ขั้นสรุป
 10.เมื่อเด็กทำกิจกรรมเสร็จแล้ว เด็กและครูร่วมกันสรุปกิจกรรมกับเพื่อนๆ ว่านอกจากใบมะพร้าวแล้ว ยังมีวัสดุธรรมชาติอื่นๆอีกไหม ที่สามารถนำมาร้อยได้
11.ครูและเด็กช่วยกันเก็บวัสดุอุปกรณ์และทำความสะอาดบริเวณของตนเอง



การประเมินผล
1. สังเกตการควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อมัดเล็ก
2. สังเกตการตามคำสั่งของครูได้
3. สังเกตการทำงานร่วมกับผู้อื่น
4.สังเกตการมีสมาธิให้จดจ่อกับสิ่งที่กำลังทำอยู่

ประโยชน์ที่ได้รับจากการทำกิจกรรม
          1.เด็กเกิดพัฒนาการด้านร่างกายกล้ามเนื้อมัดเล็ก มือประสานกันกับตา
2.เด็กเกิดจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ การออกแบบการร้อยตะกร้อใบตาลของตัวเอง
3.เด็กได้ฝึกสมาธิของตัวเองในการเรียนรู้สิ่งต่างๆให้นาน และใช้ผลในการเรียนรู้ที่ดีขึ้นได้
4.เด็กได้เรียนรู้สิ่งประดิษฐ์ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ
5.เด็กได้เรียนรู้การทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น





                                                                  กิจกรรมที่ 2
                                                              พิมพ์ภาพบนถุงผ้า
                                                                                     
จุดประสงค์
           1.เพื่อพัฒนาความสามารถในการควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อมัดเล็กให้ประสานสัมพันธ์กันระหว่างมือกับตาได้
           2.เพื่อปฏิบัติตามคำสั่งของครูได้
           3.เพื่อฝึกทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น
           4.เพื่อฝึกสมาธิให้จดจ่อกับสิ่งที่กำลังทำอยู่

วัสดุอุปกรณ์
            1.ผ้าขาวบางขนาด 12X10 นิ้ว
            2.กาวติดผ้า
            3.กรรไกร
            4.ไม้ไผ่ผ่าเป็นท่อน
            5.ดอกไม้หลากหลายสี
            6.ใบไม้หลากหลายลักษณะ



กิจกรรมสำหรับเด็กอายุ 
ขั้นนำ
            1.ครูจัดเตรียมอุปกรณ์ในการทำกิจกรรมให้พร้อม
            2.ครูและนำวัสดุอุปกรณ์
            3.ครูและนักเรียนร่วมกันสร้างข้อตกลง
                    -การใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง ความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น
                    -ไม่หยอกล้อกันระหว่างทำกิจกรรม
                    -รู้จักการแบ่งปัน การรอคอย 
ขั้นกิจกรรม
           4. ครูให้นักเรียนหยิบผ้าขาวบางคนละ 2 ชิ้นเพื่อจะทำถุงกระเป๋า โดยเด็กอายุ 2 – 3 ปี ครูอาจให้จับคู่กัน
          5. บีบกาวติดบริเวรชายผ้าทั้ง 3 ด้านและทิ้งไว้ 5 นาทีรอกาวแห้ง แล้วพลิกด้านของถุงกระเป๋าโดยมีครูคอยช่วยเหลือใกล้ๆ
          4. ครูให้เด็กนำดอกไม้ใบไม้มาวางบนกระเป๋าผ้าโดยออกแบบตามจินตนาการความคิดสร้างสรรค์
โดยเด็กอายุ 2 – 3 ปี ใช้นิ้วกด ขยี้ทับดอกไม้หรือใบไม้ในเด็กอายุ 4 – 6 ปี ใช้เทปใสติดทับบริเวณที่มีดอกไม้ใบไม้วางอยู่บนกระเป๋าผ้า

       6.ใช้ไม้หรือค้อนทุบไปยังบริเวณดอกไม้ใบไม้ให้สีจากใบไม้ติดบนกระเป๋าผ้าเมื่อมั่นใจว่าสีติดแล้วให้แกะเทปใสออก
ขั้นสรุป
       7.เด็กและครูร่วมกันสรุปกิจกรรมกับเพื่อนๆ ว่าทำเป็นรูปอะไรบ้าง และทุกคนต้องทำกิจกรรมอย่างระมัดระวังต้องรู้จักแบ่งปันกัน ทำตามกฎ กติกา
          8.ครูให้เด็กช่วยกันทำความสะอาดบริเวณทำกิจกรรมของตนเอง

การประเมินผล
          1. สังเกตการควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อมัดเล็ก
          2. สังเกตการตามคำสั่งของครูได้
          3. สังเกตการทำงานร่วมกับผู้อื่น
          4.สังเกตการมีสมาธิให้จดจ่อกับสิ่งที่กำลังทำอยู่

ประโยชน์ที่ได้รับจากการทำกิจกรรม
          1.เกิดพัฒนาการด้านร่างกายกล้ามเนื้อมัดเล็กมัดใหญ่
          2.เกิดการประสานกันระหว่างมือกับตา
          3.เด็กรู้จักสีตามธรรมชาติ
          4.เกิดความคิดสร้างสรรค์
          5.เกิดทักษะการทำกิจกรรมร่วมกันกับผู้อื่น
          6.เด็กรู้จักความรับผิดชอบเมื่อทำกิจกรรมเสร็จต้องช่วยกันทำความสะอาด

                                                                   
                                                                   กิจกรรมที่ 3
                                                              ละเลงสีจากธรรมชาติ





จุดประสงค์
    1.เพื่อพัฒนาความสามารถในการควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อมัดเล็กให้ประสานสัมพันธ์กันระหว่างมือกับตาได้
    2.เพื่อปฏิบัติตามคำสั่งของครูได้
    3.เพื่อฝึกทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น
    4.เพื่อฝึกสมาธิให้จดจ่อกับสิ่งที่กำลังทำอยู่

    5.เพื่อสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ด้วยความคิดของตนเอง

วัสดุอุปกรณ์
1. กระดาษ a4
2. กาละมังใส่น้ำล้างมือ
3. ผ้าเช็ดมือ
4. พู่กัน

5. สีจากธรรมชาติ
     -สีเหลือง จากขมิ้น
     -สีดำ จากถ่าน
     -สีเขียว จากใบเตย
     -สีแดง จากแก้วมังกร
     -สีน้ำเงิน จากอัญชัญ
6. จานใส่สี

กิจกรรมสำหรับเด็กอายุ 2 – 3 ปี
ขั้นนำ
          1.ครูจัดเตรียมอุปกรณ์ในการทำกิจกรรมให้พร้อม
          2.ครูให้เด็กนั่งเป็นวงกลม
          3.ครูและเด็กร่วมกันสร้างข้อตกลง
                - ไม่หยอกล้อกันระหว่างทำกิจกรรม ไม่นำดินสอเข้าปากและนำสีไปทาผู้อื่น

                - รู้จักการอดทน การรอคอย ไม่แย่งกัน
ขั้นกิจกรรม
           4.ครูแนะวัสดุอุปกรณ์พร้อมแนะนำกิจกรรม

           5.ครูให้เด็กทำกิจกรรมวาดภาพละเลงสีด้วยนิ้วมือ
ขั้นสรุป
           6.เมื่อเด็กทำกิจกรรมเสร็จแล้วครูให้เด็กล้างมือ
       7.เด็กและครูร่วมกันสรุปกิจกรรมกับเพื่อนๆ ว่าทำเป็นรูปอะไรบ้าง และทุกคนต้องทำกิจกรรมอย่างระมัดระวังต้องรู้จักแบ่งปันกัน ทำตามกฎ กติกา

           8.ครูให้เด็กช่วยกันทำความสะอาดบริเวณทำกิจกรรมของตนเอง



กิจกรรมอายุ 3 - 6 ปี
 ขั้นนำ
            1.ครูจัดเตรียมอุปกรณ์ในการทำกิจกรรมให้พร้อม
            2.ครูให้เด็กนั่งเป็นวงกลม
            3.ครูและเด็กร่วมกันสร้างข้อตกลง
                    - ไม่หยอกล้อกันระหว่างทำกิจกรรม ไม่นำดินสอเข้าปากและนำสีไปทาผู้อื่น
                    - รู้จักการอดทน การรอคอย ไม่แย่งกัน

ขั้นกิจกรรม
           4.ครูแนะวัสดุอุปกรณ์พร้อมแนะนำกิจกรรม ดังนี้
       4.1 วาดภาพจากขมิ้น
       4.2 วาดภาพจากดอกอัญชัน
       4.3 วาดภาพจากถ่าน
       4.4 วาดภาพจากพู่กัน
            5.ครูให้เด็กเลือกทำกิจกรรมตามใจชอบ
ขั้นสรุป
            6.เมื่อเด็กทำกิจกรรมเสร็จแล้วครูให้เด็กล้างมือ
         7.เด็กและครูร่วมกันสรุปกิจกรรมกับเพื่อนๆ ว่าทำเป็นรูปอะไรบ้าง และทุกคนต้องทำกิจกรรมอย่างระมัดระวังต้องรู้จักแบ่งปันกัน ทำตามกฎ กติกา

           8.ครูให้เด็กช่วยกันทำความสะอาดบริเวณทำกิจกรรมของตนเอง

การประเมินผล
1. สังเกตการควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อมัดเล็ก
2. สังเกตการตามคำสั่งของครูได้
3. สังเกตการทำงานร่วมกับผู้อื่น
4.สังเกตการมีสมาธิให้จดจ่อกับสิ่งที่กำลังทำอยู่
           5. สังเกตผลงานของเด็ก

ประโยชน์ที่ได้รับจากการทำกิจกรรม
              1.เด็กเกิดพัฒนาการด้านร่างกายกล้ามเนื้อมัดเล็กมือประสานกันกับตา
              2.เด็กเกิดความคิดสร้างสรรค์
              3.เด็กเกิดทักษะการทำกิจกรรมร่วมกันกับผู้อื่น
              4.เด็กรู้จักความรับผิดชอบเมื่อทำกิจกรรมเสร็จต้องช่วยกันทำความสะอาด
              5.เด็กมีสุขภาพอนามัยที่ดีหลังจากทำกิจกรรมเสร็จทุกครั้งต้องล้างมือ






                                                                            กิจกรรมที่ 4
                                                         กระโดดตามรอยเท้า ก้าวขาพาลูกโป่งเดิน


จุดประสงค์
1.เพื่อส่งเสริมทักษะการใช้กล้ามเนื้อใหญ่ของเด็กปฐมวัย
2.เพื่อส่งเสริมทักษะการกระโดดของเด็กปฐมวัย
3.เพื่อฝึกการทรงตัวและหยุดอยู่กับที่ได้

4.เพื่อฝึกทักษะการรอคอยและปฏิบัติตามคำสั่งของครูได้

วัสดุอุปกรณ์

          1.ภาพร้อยเท้า


             2.ลูกโป่ง


กิจกรรมสำหรับเด็กอายุ 2 – 6 ปี
ขั้นนำ
1.ครูจัดเตรียมอุปกรณ์ในการทำกิจกรรมให้พร้อม
2.ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละเท่าๆกัน และร่วมกันสร้างข้อตกลง
                -การกระโดดอย่างระมัดระวัง ความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น

                -ไม่วิ่งขณะ ทำกิจกรรม
ขั้นกิจกรรม
1.ครูแนะนำกิจกรรม พร้อมทั้งสาธิตให้เด็กๆ
ดูวิธีเล่น เริ่มจากการกระโดดสองขาพร้อมๆกันจากร้อยเท้าหนึ่งไปอีกร้อยเท้าหนึ่งจนถึงจุดสุดท้าย

2.ครูให้เด็กทำกิจกรรม (จบกิจกรรมสำหรับเด็กอายุ 2 – 3 ปี ครูให้เด็กนั่งพัก)


กิจกรรมเหมาะสำหรับเด็กอายุ 3 – 6 ปี
ขั้นกิจกรรม
1. ครูให้เด็กเข้าแถวตามลำดับก่อน-หลัง

2. ครูให้เด็กเดินตามเส้นซิกแซกโดยนำลูกโป่งมาไว้ตรงกลางระหว่างขา ข้าง แล้วให้เด็กพาลูกโป่งไปให้ถึงเส้นชัยโดยที่ลูกโป่งไม่ตกลงพื้น
ขั้นสรุป
1.ครูให้เด็กนั่งพัก
2.เด็กและครูร่วมกันสรุปถึงการเล่นหรือการร่วมกิจกรรมกับเพื่อนๆ ทุกคนต้องเล่นด้วยความระมัดระวังต้องทำตามกฎ  กติกา

3.ครูให้เด็กช่วยกันเก็บอุปกรณ์เข้าที่



การประเมินผล
1. สังเกตการใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ของเด็กปฐมวัย
2. สังเกตจากการรอคอย
3. สังเกตการปฏิบัติตามคำสั่งของคุณครู

4. สังเกตการทำกิจกรรม และการมีส่วนร่วมกับผู้อื่น

ประโยชน์ที่ได้รับจากการทำกิจกรรม
1. เด็กเกิดพัฒนาการด้านร่างกายกล้ามเนื้อมัดใหญ่ มือประสานกันกับตา
2. เด็กเกิดการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างคล่องแคล่ว ว่องไว การเดินทรงตัว
3. เด็กเกิดทักษะการเล่นร่วมกันกับผู้อื่น

4. เด็กรู้จักความรับผิดชอบเมื่อเล่นเสร็จแล้วต้องรู้จักเก็บอุปกรณ์
     





                                                                              กิจกรรมที่ 5
                                                                              กะลาพาเพลิน



จุดประสงค์
1.เพื่อส่งเสริมพัฒนาการประสานสัมพันธ์ระหว่างตากับมือ
2.เพื่อฝึกการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างคล่องแคล่ว ว่องไว
3.เพื่อส่งเสริมทักษะการใช้กล้ามเนื้อใหญ่ของเด็กปฐมวัย

4.เพื่อส่งเสริมการเดินทรงตัวบนกะลา

วัสดุอุปกรณ์

1.กะลามะพร้าวที่ร้อยเชือกแล้ว
2.กรวย

กิจกรรมสำหรับเด็กอายุ 2 – 3 ปี
ขั้นนำ
1. ครูจัดเตรียมอุปกรณ์ในการทำกิจกรรมให้พร้อม
2. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม  กลุ่มละเท่าๆกัน  และร่วมกันสร้างข้อตกลง
                 - การใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง ความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น
                - รู้จักการอดทน การรอคอย ไม่แย่งกันเล่น

                - เดินอย่างระมัดระวังไม่วิ่ง
ขั้นกิจกรรม
3. ครูแนะนำกิจกรรม พร้อมทั้งสาธิตให้นักเด็กๆดูวิธีเล่น เริ่มจากขึ้นไปยืนบนกะลาโดยใช้นิ้วหัวแม่เท้าและนิ้วชี้หนีบเส้นเชือกเอาไว้ใช้มือดึงตรงกลางเชือกเอาไว้  และเริ่มเดินได้

4.ครูให้เด็กทำกิจกรรมโดยเริ่มจากเด็กคนที่ 1 จนเด็กได้ทำกิจกรรมทุกคน 
ขั้นสรุป
5.ครูให้เด็กนั่งพัก
6.เด็กและครูร่วมกันสรุปถึงการเล่นหรือการร่วมกิจกรรมกับเพื่อนๆ ทุกคนต้องเล่นด้วยความระมัดระวังต้องรู้จักแบ่งปันกัน ต้องรู้จักอดทน รอคอย รู้จักสามัคคีกันและเล่นตามกฎ  กติกา จึงจะเล่นได้ด้วยความสุขสนุกสนาน

7.ครูให้เด็กช่วยกันเก็บอุปกรณ์เข้าที่

กิจกรรมเหมาะสำหรับเด็กอายุ 4 – 6 ปี

ขั้นนำ
1.ครูจัดเตรียมอุปกรณ์ในการทำกิจกรรมให้พร้อม
2.ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม  กลุ่มละเท่าๆกัน  และร่วมกันสร้างข้อตกลง
                 -การใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง ความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น
                -รู้จักการอดทน การรอคอย ไม่แย่งกันเล่น

                -เดินอย่างระมัดระวังไม่วิ่ง
ขั้นกิจกรรม
3.ครูแนะนำกิจกรรม พร้อมทั้งสาธิตให้นักเด็กๆดูวิธีเล่น เริ่มจากขึ้นไปยืนบนกะลาโดยใช้นิ้วหัวแม่เท้าและนิ้วชี้หนีบเส้นเชือกเอาไว้ใช้มือดึงตรงกลางเชือกเอาไว้  และเริ่มเดินได้

4.ครูให้เด็กทำกิจกรรมโดยให้เด็กแต่ละทีม เดินซิกแซกตามกรวยที่กำหนดให้ และเล่นทีละคนจนครบทุกคน
ขั้นสรุป
5.ครูให้เด็กนั่งพัก
6.เด็กและครูร่วมกันสรุปถึงการเล่นหรือการร่วมกิจกรรมกับเพื่อนๆ ทุกคนต้องเล่นด้วยความระมัดระวังต้องรู้จักแบ่งปันกัน ต้องรู้จักอดทน รอคอย รู้จักสามัคคีกันและเล่นตามกฎ  กติกา จึงจะเล่นได้ด้ยความสุขสนุกสนาน

7.ครูให้เด็กช่วยกันเก็บอุปกรณ์เข้าที่

การประเมินผล
           1.สังเกตการเดินทรงตัวบนกะลาโดยไม่ล้ม
           2.สังเกตจากการรอคอย
           3.สังเกตการปฏิบัติตามคำสั่งของคุณครู

           2.สังเกตการมีส่วนร่วมกับผู้อื่น

ประโยชน์ที่ได้รับจากการทำกิจกรรม

          1.เด็กเกิดพัฒนาการด้านร่างกายกล้ามเนื้อมัดใหญ่ มือประสานกันกับตา

          2.เด็กเกิดการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างคล่องแคล่ว ว่องไว การเดินทรงตัว

          3.เด็กเกิดทักษะการเล่นร่วมกันกับผู้อื่น

          4.เด็กรู้จักความรับผิดชอบเมื่อเล่นเสร็จแล้วต้องรู้จักเก็บอุปกรณ์



สรุปผล

กลุ่มที่ 1 พัฒนาการและการเรียนรู้ทางด้านร่างกาย



กิจกรรมที่ 1 ร้อยรักการสาน



สิ่งที่ปรับปรุง
            1.ใช้คำใหม่
            2.ประเมินให้ตรงกับจุดประสงค์ที่ตั้งไว้

            3.ปรับกิจกรรมให้เหมาะสมในเด็กทั้ง 2 ช่วงอายุ คือ 2 – 3  ปี และ 4 – 6  ปีดังนี้

ภาพการทำกิจกรรม








                                                                      กิจกรรมที่ 2
                                                                 พิมพ์ภาพบนถุงผ้า



สิ่งที่ปรับปรุง
            1.ใช้คำใหม่
            2.ประเมินให้ตรงกับจุดประสงค์ที่ตั้งไว้

            3.ปรับวิธีการ วัสดุอุปกรณ์โดยให้เด็กเป็นผู้ลงมือปฏิบัติให้ได้มากที่สุด


                                                        
                                                        ภาพการทำกิจกรรม










                                                                      กิจกรรมที่ 3

                                                              ละเลงสีจากธรรมชาติ

สิ่งที่ปรับปรุง
1.ใช้คำใหม่
2.ประเมินให้ตรงกับจุดประสงค์ที่ตั้งไว้

3.เพิ่มอุปกรณ์ และปรับกิจกรรมให้เหมาะสมกับเด็กอายุ 4 – 6 ปี


                                                               ภาพการทำกิจกรรม








                                                                      กิจกรรมที่ 4

                                                    กระโดดตามรอยเท้า ก้าวขาพาลูกโป่งเดิน




สิ่งที่ปรับปรุง
            1.ใช้คำใหม่
            2.ประเมินให้ตรงกับจุดประสงค์ที่ตั้งไว้

            3.ปรับกิจกรรมให้เหมาะสมกับเด็กอายุ 4 – 6 ปี
                                                          ภาพการทำกิจกรรม








                                                                       กิจกรรมที่ 5

                                                                      กะลาพาเพลิน

สิ่งที่ปรับปรุง
               1.ใช้คำใหม่
               2.ประเมินให้ตรงกับจุดประสงค์ที่ตั้งไว้

             3.ปรับกิจกรรมให้เหมาะสมแต่ละช่วงอายุโดยเด็กอายุ 2 – 3 ปี จะเน้นที่การฝึกทักษะการทรงตัว เด็กอายุ 4 – 6 ปี จะเน้นการทรงตัวโดยไม่ล้มและการเดินซิกแซกปี



                                                             ภาพการทำกิจกรรม









ภาคผนวก